สื่อโซเชียลกลายเป็นพื้นที่สร้างรายได้เสริมสำหรับใครหลายคน ที่ชื่นชอบในการคิดคอนเทนต์ที่น่าสนใจมามัดใจคนดู แต่ใช่ว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จ เพราะการที่จะมีผู้ติดตามหลักหมื่นหรือหลักแสนได้นั้น จะต้องมีคอนเทนต์ที่ไม่เหมือนใคร และน่าติดตาม
วันนี้จะพาไปติดตามเบื้องหลังของดีเจออนไลน์ที่กำลังโด่งดังในโลกโซเชียล เพราะลีลาและคอนเทนต์ของเขาไม่เหมือนใครทำให้มีผู้ติดตามทั้งในไทยและกัมพูชา ดีเจออนไลน์ที่พูดถึงก็คือ นายจำรัส เจียมรัมย์ หรือที่ชาวสื่อโซเชียล รู้จักกันในชื่อ “เจดีอานายโอน เซราะกราว บุรีรัมย์” ซึ่งปัจจุบันเขามีผู้ติดตามในสื่อโซเชียลอย่าง Youtube กว่า 8 หมื่นคน , TikTok มากกว่า 126,000 คน พร้อมยอดไลค์ถึง 1.9 ล้านไลค์
โดยนายจำรัส เจียมรัมย์ อายุ 32 ปี เล่าว่า ก่อนที่จะมาเป็นเจดีอานายโอน เซราะกราวบุรีรัมย์ ที่ดังในสื่อโซเชียลขนาดนี้ เมื่อก่อนตอนบวชเรียนที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ และช่วยงานพระอาจารย์ในการตัดต่อ สร้างเพจ และชีวิตพลิกผันก็ตอนที่ดีเจรายการวิทยุในวัดไปทำธุระ จนตัวเองที่บวชเป็นพระต้องมาเป็นดีเจแทนชั่วคราว จึงรู้ว่าตัวเองชื่นชอบในการเป็นดีเจรายการวิทยุ และได้ฝึกฝนการเป็นดีเจตั้งแต่นั้นมา หลังจากสึกจากการเป็นพระแล้วก็มาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียนบ้านโชคกราด ตำบลบ้านตะโก อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ และได้ใช้เวลาว่างหลังเลิกงาน หรือวันหยุด สร้างเพจเฟสบุ๊คของตัวเองโดยใช้ชื่อว่า “เจดีอานายโอน เซราะกราวบุรีรัมย์” ก็คิดหาคอนเทนต์ไปเรื่อย แต่ที่โดนใจได้ยอดไลค์มากที่สุดก็คือ คลิปดีเจไลฟ์สดกลางทุ่งนา ที่ตัวเองชอบใช้เพลงกันตรึมผสมเพลงเร็ว หรือเพลงแดนซ์ โดยจะเน้นเอกลักษณ์ในการใช้ภาษาเขมรพื้นถิ่น ในการทักทายผู้ที่เข้ามารับฟัง ท่ามกลางบรรยากาศท้องทุ่งนาของตัวเองเป็นสถานที่ถ่าย เพราะอยากนำเสนอเอกลักษณ์ของชาวอีสานใต้ จนได้รับความสนใจทำให้มีผู้ติดตามทั้งในไทยและแฟนคลับจากกัมพูชาหลังจากจัดรายการผ่านแอพ TikTok ได้ประมาณ 1 ปีเศษ ก็มีผู้ติดตามร่วมแสน ส่วนใหญ่เป็นพ่อยกแม่ยกจากกัมพูชา จังหวัดในพื้นที่ภาคอีสาน การเป็นดีเจออนไลน์นอกจากจะเป็นความชื่นชอบแล้ว ยังสร้างรายได้เสริมจากการทำคอนเทนต์ในสื่อออนไลน์ช่องทางต่างๆ เฉลี่ยเดือนละ 6,000-10,000 บาทอีกด้วย สำหรับต้นทุนในการเป็นดีเจออนไลน์ หรือทำคอนเทนต์ต่างๆ ประมาณ 2 หมื่นบาท อาทิ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง กล้องโกโปร ไมค์ไร้สาย หูฟัง และขาตั้งกล้อง
เจดีอานายโอน เซราะกราว บุรีรัมย์ ยังเผยด้วยว่า สิ่งสำคัญสำหรับการทำสื่อโซเชียลให้มีคนรักคนติดตามคือ จะต้องมีใจรัก มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ไม่ถือตัว และต้องมีความสม่ำเสมอ แต่ก็อยากฝากคนรุ่นใหม่ด้วยว่า อย่าใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์จนลืมใช้เวลาพัฒนาตัวเองในชีวิตจริง เพราะมันจะส่งผลเสียมากกว่าผลดี หากไม่รู้จักแบ่งเวลา
