วันที่ 10 ตุสาคม 2566 ที่บริเวณซุ้มวิถีเรือไฟอำเภอธาตุพนม ริมฝั่งแม่น้ำโขง เขตเทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย นางสงวน จันทร์พร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม นางสาวกนกวรรณ ดุงศรีแก้ว ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานนครพนม นายคงกริช พงษ์พันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนม ดร.ศุภพานี โพธิ์สุ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม นายชัยณรงค์ กาญจะนะกันโห พัฒนาการจังหวัดนครพนม พลตำรวจตรี ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม และนางสาวนิษฐ์ธรีย์ โตธนานันท์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดนครพนม ร่วมกันแถลงข่าวความพร้อมในการจัดงานประเพณีไหลเรือไฟจังหวัดนครพนม ประจำปี 2566 ไม่ว่าจะเป็น สถานที่และการจัดกิจกรรม การรักษาความปลอดภัย การจราจร และการอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ ที่จะมีขึ้น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเยือนจังหวัดนครพนมในช่วงวันออกพรรษาระหว่างวันที่ 20 -30 ตุลาคม 2566
โดยในปีนี้จังหวัดนครพนมได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานให้มีความหลากหลายและยิ่งใหญ่ในหลาย ๆ ด้าน ประกอบไปด้วย การไหลเรือไฟโชว์ที่จะมีให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวชมทุกวัน ๆ ละ 2 ลำ พร้อมกระทงสายวันละ 2,500 ดวง ส่วนในวันที่ 29 ตุลาคม 2566 ที่เป็นวันออกพรรษาจะเป็นวันมหกรรมไหลเรือไฟ มีเรือไฟไหลประกวดทั้งสิ้น 12 ลำ จาก 12 อำเภอ กระทงสาย 5,000 ดวง เพื่อเป็นประทีปพุทธบูชาตามความเชื่อความศรัทธาของคนในลุ่มแม่น้ำโขง และที่จะเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์คือการบินโดรนจำนวน 500 ลำ ที่จะมาสร้างความตื่นตาตื่นใจและความสวยงามกลางท้องฟ้าในยามค่ำคืนระหว่าง วันที่ 19 – 28 ตุลาคม 2566 เพื่อแปลอักษรและรูปภาพ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเรือไฟโบราณที่จะเปิดโอกาสให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้มาประกอบพิธีสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาตามปีนักษัตร เสริมบุญบารมีกับการทำกระทงเรือไฟจากกาบกล้วย ตัดเส้นผม เล็บ และเขียนกระดาษอธิษฐานขอพร แล้วนำมาวางรวมกันในเรือไฟโบราณ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำไปลอยกลางแม่น้ำโขง เป็นการลอยเคราะห์ ความทุกข์ ความเศร้าออกไปจากชีวิตตามความเชื่อที่มีมาแต่โบราณ หรือถ้านักท่องเที่ยวที่สนใจอยากสัมผัสกับขั้นตอน ตลอดจนวิธีการสร้างเรือไฟ ก็สามารถมาเรียนรู้ได้กับซุ้มวิถีคนทำเรือไฟที่ชาวนครพนมจัดสร้างขึ้น เป็นสถานที่พักแรมระหว่างสร้างเรือไฟ ทำให้ทุกคนได้เห็นถึงวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ตลอดจนศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ความศรัทธา และวิธีสร้างเรือไฟของแต่ละอำเภอ
ขณะเดียวกันก็ยังมีพิธีรำบูชาองค์พระธาตุพนม พิธีการอัญเชิญไฟพระฤกษ์ ขบวนแห่ปราสาทผึ้ง การแสดงศิลปวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้าน การแสดงโชว์เรือกีบหนีบกันพายที่เป็นการว่ายน้ำในแม่น้ำโขงเพื่อแปรขบวนเป็นรูปต่าง ๆ การแสดงยุทธวิธีทางน้ำ การแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินชื่อดัง กิจกรรมพาข้าวแลง การแข่งขันเรือยาวชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพร้ตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และการทำบุญตักบาตรเทโว โดยในโอกาสนี้ผู้ที่ร่วมงานยังสามารถร่วมสนุกและทำบุญกับกิจกรรมมัจฉากาชาด ที่จะมาออกบูธทำกิจกรรมในระหว่างงาน เพื่อหารายได้ไปช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่ หรือจะเลือกจับจ่ายซื้อหาสิ่งของเครื่องเครื่องแต่งกาย สินค้าอุปโภค บริโภค กับสินค้าพื้นถิ่นและผลิตภัณฑ์ชุมชน หรือถ้าใครอยากกระทบไหล่ดาราก็สามารถมาร่วมงานได้ในวันที่ 19 ตุลาคม 2566 ที่จะมี กรีน อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล และ ญิ๋งญิ๋ง ศรุชา เพชรโรจน์ ดารานักแสดงจากละครพนมนาคา ออกอากาศทางช่อง ONE มาร่วมรำบวงสรวงพญาสัตตนาคราชก่อนการจัดงานจะเริ่มขึ้น
