คืบหน้าตำรวจชุดสืบจ.บุรีรัมย์ ร่วมกับชุดสืบ สภ.ชำนิ รวบแก๊งมิจฉาชีพสุดแสบทำทีเป็นเสี่ยใหญ่มาตระเวนหาซื้อที่ดิน ก่อนออกอุบายหลอกล่อป้าเจ้าของห้องสูญเงิน 7 แสน ขณะหนีไปซ่อนตัวที่บ้านภรรยา จ.เลย พบประวัติก่อเหตุในหลายพื้นที่จังหวัด






ความคืบหน้ากรณีที่นางละออง เชิญรัมย์ อายุ 65 ปี เจ้าของห้องเช่าแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.การุณ แสงอรุณ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ชำนิ หลังถูกแก๊งมิจฉาชีพเป็นชาย 4 คน รวมหัวกันสร้างเรื่องโกหกทำทีว่าเป็นเสี่ยใหญ่ฐานะร่ำรวย มาตระเวนหาซื้อที่ดินต่างอำเภอ โดยหลอกให้ป้าพาไปดูที่ดิน แล้วเสนอว่าถ้าเจ้าของที่ยอมขายที่ให้จะให้ค่านายหน้า 1 แสนบาท แต่สุดท้ายกลับออกอุบายว่าเงินที่เตรียมมาไม่พอ จึงหลอกขอยืมเงินป้าก่อนแล้วจะคืนให้พร้อมน้ำใจเพิ่มอีก 1 แสน รวมกับค่านายหน้าเป็น 2 แสนบาท ทำให้นางละออง หลงเชื่อยอมไปถอนเงินสดที่ ธกส.ให้กับแก๊งมิจฉาชีพ สุดท้ายสูญเงิน 7 แสนบาท แต่กลับไม่มีการซื้อขายที่ดินจริงและป้าก็ไม่ได้เงินค่านายหน้าตามที่แก๊งมิจฉาชีพกล่าวอ้างแต่อย่างใด จากนั้นคนร้ายก็หลบหนีไป สร้างความเดือดร้อนให้กับคุณป้าละออง เป็นอย่างมาก เพราะเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่เก็บไว้ใช้ในบั้นปลายชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ต.ค.66 ที่ผ่านมา
ซึ่งหลังจากผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ทั้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และตำรวจชุดสืบสวน สภ.ชำนิ ก็ได้ลงพื้นที่หาข้อมูลเบาะแส และออกติดตามตัวคนร้ายอย่างต่อเนื่อง กระทั่งทราบว่าหนึ่งในคนร้ายที่ก่อเหตุหลอกลวงป้า ได้หลบหนีไปท้องที่ จ.เลย จึงได้นำหมายจับไปติดตามจับกุมตัว
โดยหนึ่งในแก๊งมิจฉาชีพที่ถูกจับกุมตัวได้คือ นายทองลา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี เป็นชาว อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา โดยตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่ อ.ภูเรือ จ.เลย ขณะหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่กับภรรยา จากนั้นก็ได้นำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ชำนิ
ซึ่งจากการสอบปากคำนายทองลา ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ยอมรับว่า ได้ร่วมกับพวกที่ยังหลบหนีอีก 3 คน สร้างเรื่องหลอกลวงป้าละออง เจ้าของห้องเช่าจริง โดยทำทีว่ามาหาซื้อที่ดินหลอกให้ป้าเป็นคนพาไปดูที่ ก่อนจะออกอุบายว่าเตรียมเงินมาไม่พอแล้วขอยืมเงินป้าก่อน โดนเสนอว่าจะให้ค่านายหน้าและสินน้ำใจ 2 แสน หลังก่อเหตุได้เงินไป 7 แสนก็แบ่งเงินกัน โดยตนได้ส่วนแบ่ง 2 แสน จากนั้นก็พากันหลบหนี โดยระหว่างที่พนักงานสอบสวนทำการสอบปากคำผู้ต้องหา ก็มีลูกหลานของผู้ต้องหา มาขอไกล่เกลี่ยและชดใช้เงินให้กับป้าผู้เสียหายจำนวน 7 แสนบาท ซึ่งป้า ก็ยอมรับเงินคืน ทั้งนี้หลังจากป้าละออง ผู้เสียหายได้เงินคืน 7 แสน ก็ได้มอบเงินจำนวน 1 แสนบาทให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อเป็นรางวัลนำจับตามที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ด้วย พร้อมได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้าย จนได้เงินคืนทั้งหมด ส่วนเรื่องคดีก็ขึ้นอยู่กับตำรวจ
ขณะพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหานายทองลา “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์” ก่อนส่งมอบตัว ให้กับชุดสืบสวน สภ.ปากช่อง เพราะมีประวัติก่อเหตุที่ จ.นครราชสีมา ด้วย ทั้งนี้ตำรวจก็จะได้ติดตามจับกุมคนร้ายอีก 3 คนที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีด้วย ซึ่งจากข้อมูลพบมีประวัติก่อเหตุในลักษณะเดียวกันหลายท้องที่