วันที่ 11 พ.ย. 2466 ที่บรรยากาศที่เมรุวัดบ้านหนองเดิ่นน้อย บ้านหนองเดิ่นพัฒนา ตำบลบ้านผึ้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอเมืองนครพนม เป็นประธานในพิธีทอดผ้าบังสกุล พร้อมด้วย นายทองเย็น สุธรรมา รองนายก อบต. บ้านผึ้ง ผู้แทนส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านและญาติพี่น้อง ได้ร่วมพิธีฌาปนกิจศพ นายเศรษฐา โฮมสร อายุ 36 ปี หนึ่งในแรงงานที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบระหว่างกลุ่มฮามาสกับกองกำลังอิสราเอล ที่ถูกส่งกลับมาถึงยังบ้านเกิด ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม เมื่อช่วงค่ำวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา













โดยบรรยากาศพิธีฌาปนกิจศพของนายเศรษฐา เป็นไปด้วยความโศกเศร้าอาลัยของครอบครัว โดยเฉพาะนางเนตรนภา โฮมสร อายุ 38 ปี ผู้เป็นพี่สาวที่ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียน้องชายอันเป็นที่รัก อันเนื่องมาจากเหตุการณ์กลุ่มฮามาสบุกเข้าทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตถึงภายในแคมป์ที่พักอย่างเหี้ยมโหด
โดยนายเศรษฐา ผู้เสียชีวิตเป็นลูกชายคนรอง จากลูกทั้งหมด 4 คน โดย นางเนตรนภา พี่สาวจะทำหน้าที่ดูแลลูกสาวแทน ส่วนนายอนุวัฒน์ โฮมสร น้องชายที่เพิ่งเดินทางไปทำงานทางตอนเหนือของอิสราเอลได้เพียง 3 เดือน ได้เดินทางกลับบ้านตามนโยบายเพื่อความปลอดภัยของรัฐบาล สำหรับนายเศรษฐา เคยแต่งงานแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสมีลูกสาว วัย 4 ขวบ ด้วยกันหนึ่งคน แต่ต่อมาได้หย่าร้างกับอดีตภรรยา ก่อนจะเดินทางไปทำงานที่อิสราเอล เพื่อหวังหาเงินสร้างเนื้อสร้างตัวและเลี้ยงดูพ่อที่อยู่ในวัยชราและลูกสาว แต่ไปทำงานได้แค่ 2 ปีกว่า ก็เกิดเหตุสู้รบกระทั่งขาดการติดต่อกับครอบครัวเมื่อวันที่ 7 ต.ค.66 ซึ่งเป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สู้รบกันวันแรก ก่อนจะมีรายชื่อว่าเป็นผู้เสียชีวิต และถูกส่งกลับภูมิลำเนานับว่าเป็นรายที่สองของจังหวัดนครพนม