เมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 24 เมษายน 2567 ร.ต.อ. ชินาธิป บัวเข็มรอง สว. (สอบสวน) สภ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตในไร่มันสำปะหลัง ด้านทิศตะวันออกของบ้านโคกกลาง หมู่ 13 ต.โคกกลาง อ.โนนสอาด จ.อุดรธานี หลังจากได้รับแจ้งแล้วรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ปฐวี ก้อนวิมล ผกก.สภ.โนนสะอาด พ.ต.ท.ณัฐพล มุงคำภา รอง สส.สภ.โนนสะอาด พ.ต.ท.อรรคพล วงษ์ฤทธิวัลย์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.ต.ปิลินท์ ศรีสถาน สว.สส.สภ.โนนสะอาด ชุดพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.โนนสะอาด อาสากู้ภัยตำรวจทางหลวงจุดบริการโนนสะอาด



ที่เกิดเหตุเป็นทางเข้าไร่มันสำปะหลัง อยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร พบร่างของนายพิจิตร์ ว่องไว อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 2 ต.โคกกลาง อ. โนนสะอาด จ.อุดรธานี สวมเสื้อยืดแขนยาวสีแดงน้ำเงิน กางเกงขายาวลายพลาง สวมรองเท้าบูท มือขวากำมีดพร้า นอนคว่ำหน้า เสียชีวิตอยู่ และใกล้ ๆ ศพพบขวานตกอยู่ และมีรถไถผู้ตายจอดอยู่ห่างออกไป 4 เมตร แพทย์จึงได้ทำการชันสูตรพลิกศพพบว่า ผู้ตายถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกปลายเข้าหน้าอก 5 ลูก กระสุนฝังใน มีเลือดออกปาก คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำศพไปผ่าลูกกระสุนเก็บไว้เป็นหลัก ที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี
จากการสอบสวนนายสมาน หีบแก้ว อายุ 60 ปี คู่เขยผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกับผู้ตายนัดกันมาขุดมันสำปะหลังที่ไร่ของผู้ตายประมาณ 10 กว่าไร่ ในเวลา 04.00 น.ผู้ตายได้ขับรถไถออกจากบ้านมาก่อน ส่วนตนขับรถอีแต๊กออกมาในเวลาประมาณ 05.00 น. เมื่อตนมาถึงก็พบผู้ตายนอนคว่ำหน้าอยู่ในไร่มัน ครั้งแรกนึกว่าวูบเป็นลม จึงเดินไปพลิกร่างผู้ตายขึ้น จึงรู้ว่าผู้ตายถูกยิงเสียชีวิต ในมือขวาผู้ตายถือมีดพร้า และมีขวานตกอยู่ใกล้ตัว ซึ่งผู้ตายไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร ไม่เคยมีศัตรู เป็นคนขยันทำงานทำไร่ทำนา ไม่เคยมีเรื่องยาเสพติด แต่เรื่องชู้สาวก็มีบ้าง เพราะผู้ตายจะเป็นคนเจ้าชู้ มีผู้หญิงรุ่นน้องในหมู่บ้านมาชอบพอผู้ตาย แต่ยังไม่ถึงขั้นมีเรื่องราว
ส่วนนายบัวลี ว่องไว อายุ 88 ปี พ่อของผู้ตายให้การว่า ลูกชายเป็นคนขยันทำงานมาก แถวนี้ไม่มีใครสู้เรื่องความขยันทำงาน ลูกชายมีลูกสาว 2 คน ทำงานส่งลูกสาวคนโตเรียนจบพยาบาล ส่วนลูกสาวคนเล็กทำธุรกิจส่วนตัว ลูกชายไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร แต่รู้ว่าลูกจะมีนิสัยเจ้าชู้บ้างตามประสาลูกผู้ชาย ตนทราบข่าวว่าลูกชายถูกยิงเสียชีวิต ก็รีบออกมาดู อยากจะรู้ว่าใครเป็นคนยิง อยากเห็นหน้า ทำไมถึงทำกันขนาดนี้ ตนอยากฝากถึงคนร้ายที่มายิงลูกชายว่า ตนเสียใจมาก อยากให้มามอบตัว แล้วอยากรู้สาเหตุว่ายิงลูกของตนทำไม อยากให้ตำรวจจับตัวได้โดยเร็ว หรือให้คนร้ายมามอบตัวกับตำรวจ
ขณะที่นางสุดตา ว่องไว อายุ 58 ปี ภรรยาของผู้ตาย เปิดเผยว่า ได้อยู่กินกับผู้ตายด้วยกันมา 37 ปี สามีเป็นคนขยันทำงาน และรักครอบครัว ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร แต่จะมีนิสัยเจ้าชู้ และไปคบหาชอบพอกับผู้หญิงหม้ายในหมู่บ้าน ประมาณ 4-5 ปี แต่พอตนทราบเรื่อง สามีก็บอกเลิกกับหญิงคนดังกล่าว แต่ผู้หญิงก็ส่งข้อความแชททางไลน์มาตลอด ก่อนเกิดเหตุเมื่อ 3 วันก่อน มีผู้หญิงม่ายสาวอายุประมาณ 40 กว่าปี ที่สามีไปคบหา ส่งข้อความทางไลน์มาหาสามีว่า
“ทำไมไม่ตอบไลน์ จะให้ตามไปถึงบ้านไหม๊ ตนเห็นจึงตอบไปว่าอย่าส่งมาอีก เพราะผู้ชายมีลูกเมียแล้ว ส่วนสาเหตุปมสังหาร ตนคาดว่าผู้หญิงที่สามีไปคบหาแล้วบอกเลิกจะโกรธแค้น ที่ไม่ได้ครอบครองสามี เพราะสามีเลือกจะอยู่กับครอบครัว จึงไปดักยิงสามี หรือจ้างคนไปยิงสามีขณะขับรถไถไปขุดมันสำปะหลังที่ไร่
ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายมีความโกรธแค้นผู้ตายเป็นการส่วนตัว และรู้ว่าจะมาเก็บกู้มันสำปะหลังในไร่ จึงถือปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ หรือชาวบ้านเรียกอีโบ๊ะ มาดักรอผู้ตายอยู่ไร่มันสำปะหลัง พอผู้ตายขับรถไถมาถึง คนร้ายได้ถือปืนออกมาหาผู้ตาย พร้อมกับพูดต่อว่า หรือมีการพูดคุยกันก่อน ทำให้ผู้ตายถือมีดและขวานลงจากรถไถมาต่อสู้ แต่โดนคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงสวนทำให้เสียชีวิตคาที่
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง และได้ตั้งปมสังหารไว้ที่เรื่องความขัดแย้งส่วนตัวในแนวเขตที่ดิน และชู้สาว เพราะผู้ตายเคยไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงม่ายในหมู่บ้าน แต่ก็เลิกกันไปแล้ว เนื่องจากถูกเมียจับได้ว่ามีกิ๊ก อาจจะทำให้คนที่รักหญิงม่ายคนดังกล่าวโกรธแค้น จึงมาดักยิง อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะได้สืบสวนหาคนร้ายที่ก่อเหตุ หรือมือปืนมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป