เมื่อเวลา 17:20 น.วันที่ 26 มิถุนายน 2567 ศูนย์วิทยุกู้ภัยสุรินทร์ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนนอนเสียชีวิตเป็นหญิง 1 รายเป็นชาวกัมพูชา ที่กระท่อมริมทุ่งนาชุมชนเทศบาลอนุสรณ์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงได้ประสานไปยัง ร.ต.ท.หญิงอาทิตยา อินนอก รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ พร้อมด้วยแพทย์หญิงสุทธินี ทัศชยกุล แพทย์เวรโรงพยาบาลสุรินทร์ และอาสาสมัครกัยสุรินทร์ รีบรุดไปตรวจสอบและร่วมกันชันสูจนพลิกศพ
ที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมริมทุ่งนาพบหญิงวัย 52 ปีนอนเสียชีวิตอยู่ที่เปลตาข่ายสวมเสื้อสีขาวลายดอกไม้ สวมกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลอ่อน ทราบชื่อต่อมาชื่อนางรส เจียว อายุ 52 ปี มีบ้านพักอาศัยเลขที่ 389 ถนนเทศบาล 3 อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นชาวกัมพูชา เสียชีวิตมาแล้วกว่า 5ชั่วโมง อาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ได้นำร่างผู้เสียชีวิตลงมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวรชันสูจน พบว่าตามร่างกายมีรอยเขียวช้ำหลายจุด จึงได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งนิติเวช รพ.สุรินทร์ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายอีกครั้ง




นายสุพจน์(เพื่อนที่ร่วมวงดื่มสุรา)อายุ 53 ปี เล่าว่า นางรส เจียว(ผู้เสียชีวิต)นั้นเป็นชาวกัมพูชาและชอบดื่มสุราเป็นประจำ ซึ่งตนและเพื่อนพร้อมผู้ตายรวม 3คนได้กินข้าวและดื่มสุราด้วยกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่าน ผู้ตายได้กินข้าวไปเพียง 4-5 คำ และดื่มสุราร่วมด้วย จากนั้นเมื่อช่วงเที่ยงผู้ตายได้เดินทางกลับมายังที่กระท่อมริมทุ่งนา จากนั้นตนก็ออกไปทำธุระไม่นานก็มีคนโทรศัพท์มาบอกตนว่า นางรส เจียวได้เสียชีวิตที่เปลตาข่าย ตนจึงรีบโทรศัพท์แจ้งกู้ภัยสุรินทร์ให้เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งตนก็ตกใจมากว่าพึ่งทานข้าวด้วยกันแต่ผู้ตายกลับมาเสียชีวิตเสียแล้ว
ทางด้าน ร.ต.ท.หญิงอาทิตยา อินนอก รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ และแพทย์หญิงสุทธินี ทัศชยกุล แพทย์เวรโรงพยาบาลสุรินทร์ ได้ทำการบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับร่วมกันชันสูตรพลิกศพ แต่ร่างผู้เสียชีวิตนั้นผิดสังเกตเพราะว่ามีรอยเขียวช้ำหลายจุด ตามร่างกายแขนและขาจึงได้ให้อาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์นำร่างผู้เสียชีวิตส่งนิติเวชโรงพยาบาลสุรินทร์ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายว่ารอยเขียวช้ำหลายจุดนั้นเกิดจากสาเหตุใด