วันที่ 12 ก.ค .2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.40 น. วันที่ 11 ก.ค.67 ร.ต.อ.สัจจนันท์ บางทราย รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนกันมีผู้เสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บจำนวนมาก ช่วง บ้านคำธาตุ ม.8 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม จึงประสานรถกู้ชีพเทศบาล ต.หนองญาติ รถกู้ชีพวีอาร์ลำโขงเฟรนด์ชิฟ กู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม ที่เกิดเหตุถนน 2 เลน ทล 2033 สายหนองญาติ-นาแก ฝั่งขาเข้าเมือง พบยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ สีส้ม ทะเบียน บท 4087 นครพนม สภาพหน้ารถพังยับเป็นเศษซาก พบคนขับเบื้องต้นยังไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 40-45 ปี ลูกจ้างส่วนราชการแห่งหนึ่ง อาการสาหัส ติดอยู่ในซากรถ จึงใช้เครื่องมือตัดถ่างงัดร่างนำส่งรักษา รพ.นครพนม











นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 4 ราย เป็นชาวบ้าน 2 ราย ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) 2 ราย ผู้บาดเจ็บเป็นชายทั้งหมด ในจำนวนนี้สาหัส 3 ราย จึงปฐมพยาบาลและลำเลียงส่งรักษาที่ รพ.นครพนม อย่างเร่งด่วน ใกล้กันพบศพนายสีธน อายุ 56 ปี ชาวบ้าน บ้านสุขเกษม ต.โพธิ์ตาก นอนหงายเสียชีวิตคาที่
ที่บริเวณใกล้เคียงพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่น สกู๊ปปี้ สีดำคาดชมพู ทะเบียน 1กค 3539 นครพนม รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟ ทะเบียน 1 กจ 142 นครพนม และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น คลิ๊ก สีดำคาดชมพู ทะเบียน 1 กค 3539 นครพนม ของชาวบ้านล้มเสียหายรวม 3 คัน ตรงข้ามพบรถยนต์ยี่ห้อ ฟอร์ด สีดำ ทะเบียน บธ 7458 นครพนม สภาพท้ายรถยุบครึ่งคันเป็นซากจอดอยู่
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถกระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ ที่มีชายคนขับอายุ 40-45 ปี ขับมาจาก อ.นาแก แล่นมาด้วยความเร็วสูง มุ่งหน้าจะเข้าตัวเมือง ขณะมาถึงที่เกิดเหตุเป็นงานบุญอุทิศส่วนกุศล หรือ งานบุญแจกข้าวให้ผู้ที่ล่วงลับ ก่อนกวาดเอารถจักรยานยนต์ที่จอดริมไหล่ทาง 3 ค้นล้มคว่ำ ก่อนเสียหลักชนท้ายรถยนต์ฟอร์ดที่มีนายสีธน ผู้ตายนั่งอยู่ท้ายรถ
นอกจากนี้ยังกวาดเอาโต๊ะอาหารและเก้าอี้ 5-6 ตัวล้มคว่ำ มีชาวบ้านนั่งดื่มกิน 2 ราย และ ชรบ.อีก 2 รายที่มาคอยอำนวยความสะดวกริมไหล่ทาง ร่างกระเด็นไปคนละทิศละทางเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมากและเสียชีวิต คาที่ 1 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนสาเหตุอย่างละเอียดที่แน่ชัดอีกครั้ง
หลังเกิดเหตุได้มีนางกันหา โคตรสา อายุ 52 ปี ภรรยานายสีธน ผู้เสียชีวิต ได้มาเปิดดูร่างสามีน้ำตาไหลอาบแก้ม ท่ามกลางความเศร้าสลด ท่ามกลางชาวบ้านที่มาร่วมงานบุญดังกล่าวร่วม 100 คน โดยมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งจะรุมประชาทัณฑ์คนขับ เจ้าหน้าที่จึงกันและห้ามปราบไว้