
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหลืออีก 5 จังหวัดที่จะมีการเลือกตั้งนายก อบจ.เพื่อแทนคนเก่าที่ลาออกก่อนครบวาระ ประกอบด้วย กำแพงเพชร ในวันที่ 1 ธ.ค.67, ตาก ในวันที่ 15 ธ.ค. 2567 ส่วนอีก 3 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์, อุตรดิตถ์ และ อุบลราชธานี จะเลือกตั้งในวันที่ 22 ธ.ค.67 ซึ่งเป็นสนามนอกฤดูกาล สำหรับ“เมืองดอกบัว” จ.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ส่ง กานต์ กัลป์ตินันท์ อดีตนายก อบจ.อุบลราชธานี เป็นผู้สมัครในนามพรรคเพื่อไทย ลงรักษาเก้าอี้ ซึ่งการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี ในวันที่ 22 ธันวาคม 2567 นี้มีผู้สมัคร 4 คนประกอบด้วย กานต์ กัลป์ตินันท์ พรรคเพื่อไทย หมายเลข 1นายสิทธิพล เลาหะวนิช พรรคประชาชน หมายเลข 2 นางจิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล สมัครอิสระ หมายเลข 3 และนายอธิปไตย ศุ้ยศรีมงคล สมัครอิสระ หมายเลข 4 ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯในครั้งนี้แม้จะมี “สิทธิพล เลาหะวนิช” อดีตรองนายก อบจ. เป็นผู้สมัครในนาม พรรคประชาชน ลงแข่งขันด้วยก็ตาม แต่ “ผู้ท้าชิง” ที่ถูกจับตามอง และได้รับการตอบรับจากชาวบ้านในพื้นที่มากคือ “กบ” จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล ผู้สมัครอิสระ เบอร์ 3 ตัวเต็งศึกเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีแค่ 2 คนจับตาศึกช้างชนช้างระหว่าง กานต์ กัลป์ตินันท์ เบอร์ 1 “แชมป์เก่า” กับ “กบ” จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล เบอร์ 3 “ผู้ท้าชิง”







ก่อนการรับสมัครเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯหากมองผิวเผินแล้ว “กานต์ กัลป์ตินันท์”จากพรรคเพื่อไทยดูจะเหนือกว่า“กบ” จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล พอสมควร !! แต่หากลงรายละเอียดแล้ว ก็จะพบว่า “ไม่ง่ายอย่างที่คิด” ล่าสุดคอการเมืองวิเคราะห์ศึกชิง “นายก อบจ.อุบลฯ” ต่างก็ฟันธงว่าแชมป์เก่า “กานต์ กัลป์ตินันท์” เป็นรอง “กบ” จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล เพราะนอกจากมีฐานเสียงสำคัญ 2 สส.เขตของพรรคไทรวมพลัง โดยมี “กังฟู” -วสวรรธน์ พวงพรศรี เป็นหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นหลานชายแล้ว ยังได้เครือข่าย สส.อดีต สส. สจ.นักการเมืองท้องถิ่น ผู้นำหมู่บ้านในพื้นที่ให้การสนับสนุน ร่วมด้วยช่วยกัน ภายใต้สโลแกน “อุบลโปร่งใส นายกใหม่สร้างสรรค์” ทำให้ “กานต์ กัลป์ตินันท์” แชมป์เก่า จากพรรคเพื่อไทยเป็นรองทั้งกระแสและกระสุน
ส่องโปรไฟล์ “กบ” จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล ผู้สมัครอิสระ เบอร์ 3 เกิด 18 ตุลาคม พ.ศ. 2509 อายุ 58 ปี ทำธุรกิจ เป็นเจ้าของโรงแป้งเอี่ยมอุบล ที่แตกสาขาจากอาณาจักรกงสี “เอี่ยมเฮง” จนกว้างขวางในพื้นที่อุบลราชธานี มากว่า 21 ปี เป็นคนจังหวัดนครราชสีมา อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา สังกัดพรรคเพื่อแผ่นดิoอดีตนายกเทศมนตรีตำบลเสิงสาง ที่ปรึกษาพรรคไทรวมพลัง และเป็นผู้ก่อตั้งพรรคเพื่อไทรวมพลัง (ชื่อเดิม) ในแวดวงยุทธจักรการเมืองรู้จัก “กบ”จิตรวรรณ ดีในฐานะเป็นภรรยาสมศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีต สว.เป็นน้องชาย “กำนันป้อ” วีระศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีต รมช.คมนาคม,พาณิชย์ ปัจจุบันอยู่เบื้องหลัง โดยผลักดันลูกสาว“สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล” เป็น รมว.วัฒนธรรม ในรัฐบาลปัจจุบัน ผลงานของ“กบ”จิตรวรรณ ในฐานะเจ้าของพรรคเพื่อไทยรวมพลัง (ชื่อเดิม) ที่หักปากกาเซียนก็คือการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2566 ที่ผ่านมา ส่งผู้สมัคร สส.ลงแค่ 2 เขต ใน จ.อุบลราชธานี และก็สร้างสถิติ 100% คว้าเก้าอี้ สส.มาได้ ทั้ง 2 เขต โค่น“ชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ กับ สมคิด เชื้อคง” อดีต สส.เกรด A หลายสมัยของพรรคเพื่อไทย แบบพลิกล็อคถล่มทลาย
นักวิเคราะห์การเมืองในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ประเมินว่าเหตุที่ “กบ”จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล ไม่ลงการเมืองสนามใหญ่ที่ จ.อุบลฯ ปี 2566 ที่ผ่านมา คงเล็งเป้าไว้ที่นายก อบจ.อุบลราชธานี ซึ่ง “ตระกูลกัลป์ตินันท์” ครอบครองมาหลายสมัย หากเทียบฟอร์มการลงชิงชัยนายก อบจ.อุบลฯครั้งนี้ ณ นาทีนี้ “ผู้สันทัดกรณี”ต่างยกให้ “กบ” จิตรวรรณ หวังศุภกิจโกศล มีความพร้อม มีทีมงานคุณภาพทำพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จึงมาแรงเหนือ “กานต์ กัลป์ตินันท์” แชมป์เก่า อยู่หลายช่วงตัว โจทย์มาตกอยู่ที่ “กานต์ กัลป์ตินันท์” จะแก้เกมอย่างไรกับการลงพื้นที่หาเสียงจากช่วงเวลาที่เหลืออยู่ 21 วัน