
เมื่อ เวลา 17.30 น.วันที่ 12 ธันวาคม 2567 ที่ ขอนแก่นฮอลล์ ชั้น 5 เซ็นทรัลขอนแก่น ได้มีการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวเทศกาลหนังเมืองแคน ครั้งที่ 8 อย่างยิ่งใหญ่ โดยมีทีมผู้บริหารมหาวิทยาลัยขอนแก่น ผู้กำกับชื่อดัง นักแสดงชั้นนำ และภาคีเครือข่ายมาร่วมเดินพรมแดง พร้อมด้วยสื่อมวลชน ประชาชน และแฟนคลับที่มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ภายในงานมีการเปิดตัวภาพยนตร์ 4 เรื่องคุณภาพที่สร้างจากทีมงานในพื้นที่อีสาน ได้แก่ 4 ขมัง, พระไม้, นาคา อวตาร และคายอ้อ ซึ่งแต่ละเรื่องล้วนมีจุดเด่นที่สะท้อนวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นอีสานได้อย่างลึกซึ้ง











รองศาสตราจารย์ ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้กล่าวถึงความสำคัญของเทศกาลหนังเมืองแคนว่า ปีนี้ถือเป็นการจัดงานครั้งที่ 8 โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการผลักดันภาพยนตร์อีสานให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก พร้อมชี้ว่า การสร้างภาพยนตร์ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นความตั้งใจจริงของคนอีสานที่ต้องการสื่อสารอัตลักษณ์และวัฒนธรรมของตนเองให้เป็นที่ประจักษ์
“คนอีสานถ้าทำอะไรจริงจังแล้วไม่แพ้ชาติใดในโลก เราเห็นว่าปัจจุบันกระแสหนังอีสานมาแรงมาก ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเทศกาลหนังเมืองแคนมีบทบาทสำคัญในการสร้างกระแสนี้ เราต้องการให้เทศกาลหนังเมืองแคนเป็นพื้นที่ที่รวบรวมคนรักหนังให้มาร่วมกันสร้างผลงานคุณภาพ เพื่อนำพาอีสานให้เป็นที่รู้จักในฐานะ ‘เมืองหนังขอนแก่น เมืองหนังแห่งอีสานสู่เมืองหนังโลก’”
สำหรับภาพยนตร์ทั้ง 4 เรื่องที่เปิดตัวในเทศกาลครั้งนี้ แต่ละเรื่องล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยภาพยนตร์เรื่อง 4 ขมัง เป็นผลงานที่สร้างโดยทีมงานและนักแสดงชาวขอนแก่น เนื้อหาเกี่ยวกับพลังและความเชื่อในท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยความลึกลับและน่าตื่นเต้น ปัจจุบันถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนภาพยนตร์เรื่อง พระไม้ กำกับโดย อาจารย์อุ๋ย ปรีชา สาคร มีเนื้อหาที่สะท้อนศิลปะและวัฒนธรรมอีสาน ซึ่งขณะนี้ได้ทำพิธีบวงสรวงเสร็จสิ้น และเตรียมเปิดกล้องถ่ายทำในเร็วๆ นี้
ในขณะเดียวกัน ภาพยนตร์เรื่อง นาคา อวตาร เป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะเล่าเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อและความศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนอีสานที่มีจิตวิญญาณและประวัติศาสตร์เข้มข้น ปัจจุบันถ่ายทำเสร็จแล้ว และได้นักแสดงชื่อดังมาร่วมแสดงด้วย ด้านภาพยนตร์เรื่อง คายอ้อ เป็นการนำเสนอเรื่องราวของหมอลำผ่านมุมมองของหนุ่มโจจากวงสาวน้อยเพชรบ้านแพง โดยเน้นการผสมผสานวัฒนธรรมหมอลำกับภาพยนตร์เพื่อสร้างกระแสใหม่ในวงการ
ภาพยนตร์ทั้ง 4 เรื่องนี้เป็นตัวแทนของ “Soft Power” อีสาน ที่สะท้อนเนื้อหาและภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง ทีมงานตั้งเป้าหมายที่จะนำภาพยนตร์เหล่านี้ออกฉายในต่างประเทศ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับภูมิภาคอีสาน และทำให้อีสานกลายเป็นดินแดนแห่งความคิดสร้างสรรค์ในวงการภาพยนตร์ระดับโลก งานนี้จึงถือเป็นอีกก้าวสำคัญของวงการหนังอีสาน ที่พร้อมก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมภาพยนตร์อีกแห่งหนึ่งของไทยและระดับนานาชาติ