เมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 25 ธ.ค.2567 ที่ เรือนจำกลางขอนแก่น นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยนายยุทธพร พิรุณสาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายประจวบ รักแพทย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และ นายจักร ลิ่มบุตร ผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่น สนธิกำลังร่วมตำรวจ-ทหาร-ฝ่ายปกครอง และชุดเฉพาะกิจกรมราชทัณฑ์ ร่วมทำการจู่โจมตรวจค้นกรณีพิเศษภายในเรือนจำกลางขอนแก่น ทำการตรวจอาคารสถานที่ ตู้ล็อคเกอร์ เรือนนอนผู้ต้องขัง ผลการตรวจไม่พบสิ่งของต้องห้ามหรือสิ่งของไม่อนุญาต และสุ่มตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดผู้ต้องขังชาย ไม่พบสารเสพติด
โดยกำลังเจ้าหน้าที่รวมกว่า 300 นาย ได้เข้าทำการประกาศเรียกรวมผู้ต้องขังทั้งหมดไว้ที่บริเวณลานกิจกรรมของเรือนจำฯ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทำการตรวค้นเรือนนอน,อาคารฝึกฝีมือ,ห้องน้ำ,โรงอาหาร,และโครงครัว รวมไปถึงจุดต้องสงสัยภายในห้องคุมขังแดนหญิงและแดนชาย ตามยุทธวิธีที่กรมราชทัณฑ์กำหนด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายภายในเรือนจำอย่างเข้มงวด
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ด้วยรัฐบาลได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจังและเด็ดขาด และได้เริ่มปฏิบัติการ Quick Win ในการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน การจับกุมและยึดทรัพย์ผู้ค้า จัดการเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง และเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วยเข้ารับการบำบัด ลดความรุนแรงจากปัญหาจิตเวชจากยาเสพติด กรมราชทัณฑ์จึงจัดให้มีการปฏิบัติการตรวจค้นยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายภายในเรือนจำอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการขจัดปัญหายาเสพติดเครื่องมือสื่อสารและสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ ให้หมดไป และเพื่อเกิดประสิทธิภาพเพื่อสกัดกั้นและเฝ้าระวังการลักลอบขนส่งยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายแบบบูรณาาร
“วันนี้เราต้องยอมรับความจริงอย่างที่เรือนจำขอนแก่น มากถึงร้อยละ 70 เป็นคดียาเสพติดและผู้ต้องขังอยู่ในกลุ่มอายุวัยแรงงานดังนั้นการป้องกันและปราบปรามจะต้องบูรณาการและประสานการทำงานร่วมกันของทุกฝ่ายและทำทุกวันไม่มีวันหยุดเพื่อให้เกิดความมั่นใจ ความเข้มข้นจากนี้ไปคือจะไปที่สถานประกอบการ คืออย่ามาอ้างว่าขาดแรงงานจนทำให้แรงงานต้องเข้าสู่วังวนยาเสพติด ซึ่งตอนนี้เรามีข้อมูลแล้วและจะต้องจู่โจมตรวจค้นโรงงานและตรวจปัสสาวะพนักงานรวมทั้งผู้จัดการโรงงานบางแห่งในเร็วๆนี้เช่นเดียวกันกับโรงเรียนที่จะมีการพูดคุยกันกับผู้บริหาร ครูฝ่ายปกครองและสารวัตรนักเรียน เพื่อกำหนดมาตรการ การป้องกัน,ป้องปรามและปราบปรามในสถานศึกษาอย่าเข้มงวดและจริงจังอย่างต่อเนื่องต่อไป
ด้านนายจักร ลิ่มบุตร ผู้บัญชาการเรือนจำกลางขอนแก่น กล่าวว่า ในการตรวจค้นได้เปิดปฏิบัติการจู่โจม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมีความโปร่งใสสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กรและกรมราชทัณฑ์ตามนโยบายอธิบดีกรมราชทัณฑ์ “รวมพลังขับเคลื่อน 8 มิติ ยกระดับสร้างความเปลี่ยนแปลง” มิติที่ 2 ยกระดับความมั่นคงปลอดภัยในเรือนจำและสถานที่ควบคุม เพื่อการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดรวมถึงสิ่งของต้องห้ามและสิ่งของไม่อนุญาต
