
เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 23 มกราคม 2568 ร.ต.อ.ภิมุข สุวรพันธ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ห้วยหลวง อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุผัวยิงเมียได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 420 หมู่ 4 บ้านดงหนองโพธิ์ ต.เชียงยืน จึงพร้อมด้วย ร.ต.อ.นิติพันธ์ สุภะดี รอง สว.สส.สภ.ห้วยหลวง นำกำลังชุดสืบสวน กู้ชีพ รพ.ศูนย์อุดรธานี อบต.เชียงยืน และอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน รุดไปตรวจสอบ






ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด ที่บริเวณหน้าประตูรั้ว พบร่าง น.ส.ณัฐพร นุราช หรือยุ้ย อายุ 41 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืน .38 บริเวณโหนกแก้มซ้ายทะลุท้ายทอย อาการสาหัส นอนหงายอยู่หน้ารถปิกอัพ โตโยต้า วีโก้ ทะเบียน บล 9178 อุดรธานี ส่วนคนยิงคือสามี จ.ส.อ.มนัส ขันภิบาล อายุ 54 ปี สารวัตรทหาร สังกัด มทบ.24 จ.อุดรธานี นั่งอยู่ถืออาวุธปืนอยู่ที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้าน สามีและเป็นเจ้าของบ้าน
ในเบื้องต้นญาติได้เข้าไปพูดคุยกับ จ.ส.อ.มนัส ให้อารมณ์เย็นลง และเจรจาสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งร่างของผู้บาดเจ็บยังอยู่ในที่เกิดเหตุ เมื่ออาสากู้ภัยฯ ไปถึงได้รีบเข้าไปปฐมพยาบาล แต่ก็ยังระแวงในความปลอดภัย ต้องรีบแจ้งตำรวจเข้ามาให้การสนับสนุน หลังจากแน่ใจว่าญาติสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ เจ้าหน้าที่รีบนำตัว น.ส.ยุ้ย ผู้บาดเจ็บ เร่งนำส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี
ต่อมาเมื่อ จนท.ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ ได้เข้าไปเจรจากับ จ.ส.อ.มนัส ฯ ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา พร้อมกับยึดอาวุธปืนลูกโม่ อาวุธปืนขนาด .38 และกระสุนในลูกโม่อีก 4 นัด ปลอกกระสุน 2 นัด พร้อมให้การว่าเป็นทหาร ให้การวกไปวนมา อ้างว่าขอให้ผู้ใหญ่ในสังกัดมาพูดคุย ไม่ยอมรับในสิ่งที่กระทำลงไป พร้อมกับตะโกนบอกว่า “มันปากดี ปากเก่ง มันเก่ง” จากนั้น จนท.ตร.จึงควบคุมตัว จ.ส.อ.มนัสฯ พร้อมของกลางไปโรงพัก เพื่อทำการสอบสวน ส่วนญาติๆ ก็ปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติม
น.ส.จุฬาลักษณ์ ศรีศักดิ์ขวา อายุ 35 ปี เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุพวกตนยืนซื้อโรตีอยู่ข้างบ้านที่เกิดเหตุ ได้ยินเสียงปืน 2 นัด ต่อมาอาสากู้ภัยมาบอกว่ามีผู้หญิงถูกยิงนอนอยู่หน้าบ้าน ไม่นานผู้ใหญ่บ้านก็เดินไปจับผู้ชายที่ก่อเหตุในบ้าน ตนเห็นแค่ฝ่ายหญิงขับรถมาจอดหน้าบ้านที่เกิดเหตุ แล้วก็ถูกยิง ตนไม่รู้ว่ามีปากเสียงกันก่อนหน้านี้หรือไม่ เพราะบ้านนี้เพิ่งย้ายมาได้ประมาณ 1 ปี จากนั้นก็มีคนมาเยอะขึ้น พวกตนก็หลบไปเพราะกลัวอันตราย
ด้าน น.ส.ทิพยรัตน์ มีชั้นช่วง อายุ 47 ปี ผญบ.ดงหนองโพธิ์ กล่าวว่า บ้านตนอยู่ตรงข้ามกับบ้านที่เกิดเหตุ ขณะที่ตนได้ขึ้นไปไหว้พระบนบ้าน ก็ได้ยินเสียงทะเลาะกัน เป็นเสียงผู้ชายว่ามีปัญหาอะไรมากมาย จากนั้นตนเดินลงมากำลังจะเข้านอน ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ที่บ้านตรงกันข้าม สามีตนจึงเดินออกไปดู ซักพักสามีก็เดินกลับมาบอกให้ตนออกไปดู เพราะยุ้ยตายแล้วนอนอยู่หน้าบ้าน สงสัยจะโดนอาวุธปืน ตนจึงบอกให้สามีดูให้ดีว่า จ.ส.อ.มนัส ยังถือปืนหรือไม่
“จากนั้นก็มีหลานของ จ.ส.อ.มนัส ออกมา ตนจึงเดินเข้าไปเห็น จ.ส.อ.มนัส กำลังเกาะลูกกรงประตู ตนเดินเข้าไปเรียกและถามว่าจำตนได้ไหม จ.ส.อ.มนัส ตอบว่าผู้จำได้ ตนจึงเดินเข้าไปจับมือ และหลานก็มาจับมืออีกข้าง ซึ่ง จ.ส.อ.มนัส จะพูดแต่คำว่า “มันเก่งๆ” ย้ำแต่คำนี้ จากนั้นกู้ชีพและกู้ภัยก็มา ซึ่งตนก็ยังไม่ทราบเรื่องราวทั้งหมด”
ผญบ.ดงหนองโพธิ์ กล่าวต่อไปอีกว่า ช่วงที่เดินเข้าไป เห็นผู้ได้รับบาดเจ็บโดนยิงนอนหงายเลือดไหล ส่วน จ.ส.อ.มนัส ยืนอยู่ในบ้าน ตอนแรกนึกว่าถูกยิงเฉี่ยวแก้ม แต่ดูแล้วถูกยิงโหนกแก้มทะลุด้านหลัง ได้ยินเสียงปืน 2 นัด แต่อาจจะโดนเพียง 1 นัด ตนก็ไม่ได้ถามอะไรเพราะกลัวว่าจะโมโหอีก และคิดว่าปืนยังอยู่ในมือ ปกติสามีภรรยาก็จะดื่มและมีโวยวายอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงขั้นยิงกันแบบนี้ วันนี้ตนก็ไม่ได้เข้าไปหา เลยไม่รู้ว่าดื่มหรือไม่ เพราะต่างคนต่างปิดบ้าน โดยปกติบ้านหลังนี้จะอยู่แค่ 2 คน พึ่งย้ายมาอยู่ได้ประมาณ 1 ปี
ร.ต.อ.นิติพันธ์ สุภะดี เปิดเผยว่า จากการสอบสวน จ.ส.อ.มนัส ให้การรับสารภาพว่า นั่งดื่มเหล้ากับภรรยา และทะเลาะกันเรื่องหนี้สิน ไม่อยากให้ภรรยาไปกู้ยืมเงินนอกระบบ แล้วให้คนมาเก็บเงินรายวันที่บ้าน เพราะตนเป็นทหาร ตนรู้สึกอาย แต่เมียพูดกวนจึงโมโห ไม่นานภรรยาก็ขับรถออกไปจากบ้าน สักพักก็ขับเข้ามาบ้าน ด้วยความโมโหและเมาจึงยิงเมีย ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “พยายามฆ่า ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า แหล่งข่าวในค่าย มทบ.24 ให้ข้อมูลว่า ปกติ จ.ส.อ.มนัส ถ้าไม่เมาก็จะเป็นคนพูดจาไพเราะ ส่วนภรรยาจะเป็นคนเถียงเก่ง มีปากเสียงกันประจำ ก่อนจะย้ายออกมาจากบ้านพักข้าราชการใน มทบ.24 มาสร้างบ้านอยู่บ้านดงหนองโพธิ์ ได้ประมาณ 1 ปี โดยภรรยาเปิดร้านขายอาหารอีสาน ซักอบรีด และร้านตัดผม ที่บ้านหลังนี้ ภรรยามักจะกู้เงินมาหมุนในการค้าขาย แต่ จ.ส.อ.มนัส ห้ามภรรยากู้เงิน เพราะเป็นทหารไม่ชอบให้มีคนมาทวงเงินที่บ้าน ส่วนภรรยามีปัญหาไม่ค่อยจ่ายตรงงวด ทำให้มีปากเสียงทะเลาะกัน ก่อนจะยิงเมียจนได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว