
หญิงวัย 54 ชาวจ.บุรีรัมย์ นำเอกสารหลักฐานข้อความแชทสนทนาโร่แจ้งตำรวจ หลังลูกสาวซึ่งมีครอบครัวอาศัยอยู่เกาหลี ไปกดทำรายการกู้เงินผ่านแอป แต่เห็นท่าไม่ดีเพราะต้องโอนเงินสร้างเครดิตในบัญชีก่อน 20,090 บาท จึงไหวตัวทันเปลี่ยนใจไม่กู้เชื่อเป็นมิจฉาชีพ แต่ลูกสาวกลับถูกนำรูปถ่ายและบัตร ปชช.ที่ส่งไปในแอปโพสต์ประจาน ทั้งขู่จะส่งภาคสนามไปหาแม่และพี่ชายที่บ้านใน อ.ละหานทราย

(7 ก.พ.68) นางเยาวมาลย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ชาว อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ได้นำเอกสารหลักฐาน ข้อความแชทการสนทนา และข้อความการข่มขู่จากแอปกู้เงิน ที่ลูกสาวซึ่งมีครอบครัวและอาศัยอยู่ที่ประเทศเกาหลีส่งมาให้ เข้าแจ้งความที่ สภ.ละหานทราย หลังจากลูกสาวซึ่งมีสามีเป็นชาวเกาหลีและปัจจุบันก็อาศัยอยู่ประเทศเกาหลี ได้ไปกดทำรายการแอปพลิเคชั่นกู้เงินในออนไลน์ เนื่องจากลูกต้องใช้เงินเป็นค่าเดินทางให้ตนเองกับสามีไปช่วยเลี้ยงหลานน้อยที่เกาหลี เพราะลูกสาวและสามีเขาจะได้ไปทำงาน แต่ลูกสาวเล่าให้ฟังว่าพอกดทำรายการในแอปกู้เงินเสร็จเรียบร้อยก็ส่งบัตรประชาชน พร้อมถ่ายรูปคู่กับบัตร ปชช.ไปให้แอปดังกล่าวแล้ว พอแอปแจ้งกลับมาว่าได้รับอนุมัติเงินกู้ แต่ต้องยอด 100,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นลูกค้ารายใหม่ลูกสาวจะต้องโอนเงินเปิดเครดิตในบัญชีก่อน 20,090 บาท ลูกสาวจึงเปลี่ยนใจไม่กู้ แต่ต่อมาลูกสาวไปเห็นรูปและบัตรประชาชนที่ลูกสาวส่งไปให้แอปเงินกู้ดังกล่าว ถูกโพสต์ประจานในโซเชียล ทั้งยังมีการส่งข้อความข่มขู่มาหาลูกสาว ว่าจะส่งทีมภาคสนามไปหาแม่และพี่ชายที่บ้านด้วย

ลูกสาวจึงเชื่อว่าแอปดังกล่าวน่าจะเป็นมิจฉาชีพ จึงได้ให้แม่ซึ่งอยู่ที่ไทยนำหลักฐานข้อความแชทสนทนาและข้อความข่มขู่ไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เพราะเกรงว่าจะถูกนำเอกสารส่วนตัวทั้งของลูกสาว แม่และพี่ชายไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย หรือใช้กู้เงินทั้งที่ไม่ได้เป็นคนกู้เอง ทั้งนี้ก็อยากฝากเตือนคนที่คิดจะกู้เงินผ่านแอปหรือออนไลน์ต่างๆ ให้ดูให้ดีเพราะอาจจะถูกหลอกตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพได้
จากนั้นทีมข่าวได้วีดีโอคอลไปสอบถาม นางสาวโย อายุ 28 ปี ลูกสาวที่อยู่ประเทศเกาหลี ซึ่งเป็นคนกดทำรายการในแอปกู้เงินดังกล่าว ก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 19 ม.ค.68 ที่ผ่านมา ตนเองอยู่ที่เกาหลี เห็นแอปพลิเคชั่นเงินกู้ในติ๊กต็อก ซึ่งตอนนั้นตั้งใจจะหาเงินสำรองสักก้อน เพื่อให้พ่อกับแม่ที่อยู่บุรีรัมย์เป็นค่าเครื่องเดินทางมาหาตนที่เกาหลีเพื่อมาช่วยดูลูกให้ จึงลองกดเข้าไปทำรายการดูว่าจะผ่านหรือไม่ ก็ส่งรูปถ่ายพร้อมบัตรประชาชนทั้งหน้า-หลังไปให้ในแอป ตอนแรกตั้งใจจะกู้แค่ 50,000 บาทเอาที่พอจ่ายไหว แต่ทางแอปตอบกลับมาว่าต้องกู้ขั้นต่ำ 100,000 บาท เขาก็ตอบกลับมาว่าผ่านการอนุมัติแต่ถ้าเป็นลูกค้าใหม่ต้องโอนเงินไปนอนในบัญชีเพื่อเปิดเครดิตก่อน 20,090 บาท ตนก็เริ่มเอะใจและคิดว่าน่าจะเป็นแก๊งมิจฉาชีพมาในรูปแบบแอปกู้เงิน จึงเปลี่ยนใจไม่กู้แล้วไม่ทำรายการต่อ ทำให้แอปดังกล่าวเริ่มไม่พอใจ บอกว่าถ้าเข้ามากดทำรายการเล่นๆ จะโพสต์ประจาน ทั้งตนเอง แม่และพี่ชายที่บ้านด้วย ซึ่งก็เห็นเขาโพสต์ประจานจริงๆ ทั้งยังส่งข้อความข่มขู่ว่าจะส่งทีมภาคสนามไปหาแม่ที่บ้าน จากกรณีดังกล่าวตนจึงได้ส่งหลักฐานให้แม่ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ละหานทราย เพราะกลัวจะถูกนำเอกสารส่วนตัวไปใช้ในทางผิดกฎหมาย หรือแอบอ้างกู้เงิน หรือค้ำประกันเงินกู้ตามที่ถูกข่มขู่ ทั้งอยากเตือนภัยคนที่คิดจะกู้เงินผ่านแอปออนไลน์ต่างๆ ต้องระวังให้ดี ยังโชคดีที่ตนเองไม่ตกเป็นเหยื่อ แต่ก็กลัวจะถูกนำเอกสารส่วนตัวไปใช้
ด้าน พ.ต.อ.มนัสวุฒิ บรรยงค์ ผกก.สภ.ละหานทราย ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.ชลิต สุดาจันทร์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ละหานทราย รับแจ้งความไว้เบื้องต้นแล้วและสอบสวนในประเด็นที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมข้อมูลส่งต่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป ในเบื้องต้นก็สามารถแจ้งความไว้เป็นหลักฐานได้ในกรณีที่อาจจะทำให้เสียหาย