
สุรินทร์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี สั่งคุมเข้มตลอดแนวชายแดน ทั้งที่ด่านช่องจอม ช่องสะงำและช่องสายตะกู ป้องกันลักลอบข้ามแดน หลังมีข้อมูลของแก็งคอลเซนเตอร์บางส่วนอยู่ในพื้นที่ฝั่งตรงข้าม พร้อมแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวของดำเนินมาตรการในการป้องปรามเข้มงวด ตัดสัญญานอินเทอร์เน็ตทั้ง 3 จุดแล้ว เพื่อลดสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะเป็นปัจจัยในการทำงานของกลุ่มคอลเซ็นเตอร์



















วันนี้ 12 กุมภาพันธ์ 2568 พลตรีสมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ได้ลงพื้นที่ที่จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ในการติดตามการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ในการดำเนินการงวดเข้มการเข้าออกบริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม พร้อมทั้งการดำเนินมาตรการป้องปรามกลุ่มขบวนการคอลเซนเตอร์ ซึ่งพบว่าบางส่วนในเข้ามาอยู่ในพื้นที่ฝั่งตรงข้าม โดยฝั่งไทยได้มีมาตรการดำเนินการในการป้องปรามอย่างเข้มงวด โดยลดสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะเป็นปัจจัยในการทำงานของกลุ่มคอลเซนเตอร์ โดยร่วมตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ และอินเตอร์เน็ต ร่วมกับสำนักงาน กสทช. เขต 22, เขต 23 และ หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ในการตัดสัญญาญทั้ง 3 จุดแล้ว ในขณะเดียวกันด้านกำลังป้องกันชายแดน ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 โดยได้มีการสั่งกำลังทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน ได้ปฏิบัติการออกลาดตระเวนเข้มงวดตลอดแนวชายแดน และช่องทางธรรมชาติ อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมือง และนำสิ่งของผิดกฎหมายเข้ามา ซึ่งอาจจะเป็นกลุ่มคอลเซนเตอร์ พลตรีสมภพ ภาระเวช บัญชาการกองกำลังสุรนารี ติดตามการดำเนินการปฏิบัติงานในบริเวณช่องทางผ่านเข้าออก ทั้งทางช่องจอม ช่องสะงำและช่องสายตะกู เพื่อกำหนดมาตรการดำเนินการต่อแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ ให้เป็นไปตามจุดหมายของรัฐบาล ซึ่งทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้มีการประชุมกำหนดแนวทางดำเนินการต่อขบวนการในพื้นที่แล้ว ในส่วนกำลังป้องกันชายแดน การสกัดกั้นปราบปรามการลักลอบข้ามแดน โดยกำลังทหารของกองกำลังสุรนารี ได้มีการลาดตระเวนเข้มงวดตลอดแนวชายแดนและตามช่องทางธรรมชาติ เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดนเข้ามาอย่างผผิดกฎหมาย ซึ่งอาจเป็นกลุ่มขบวนการแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ที่แอบลักลอบเข้ามา ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี กล่าวต่อว่า ในส่วนจุดตรงข้ามกับชุดปฏิบัติการของกองกำลังสุรนารีมีอยู่ 3 พื้นที่ คือช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ ช่องจอม จังหวัดสุรินทร์และช่องสายตะกู จังหวัดบุรีรัมย์
ซึ่งจากข้อมูลก็มีขบวนการกลุ่มคอลเซ็นเตอร์บางส่วนอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว โดยเราได้มีมาตรการดำเนินการในการป้องปรามเข้มงวด โดยลดสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะเป็นปัจจัยในการทำงานของกลุ่มคอลเซนเตอร์ ซึ่งได้มีการแจ้งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวได้รับทราบและเร่งดำเนินการในกรอบที่ตนเองมีอยู่ให้เกิดผลอย่างเร่งด่วน แล้ว ผบ.กองกำลังสุรนารีกล่าว….. ทั้งนี้ล่าสุดเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ทำการช่วยเหลือต่างชาติเป็นชาวจีน 1 นาย ที่ถูกลักพาตัวบังคับให้ทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่กระโดดลงจากรถหนีตาย โร่ขอความช่วยเหลือจากตำรวจสุรินทร์
ต่อมาได้มีการขยายผลจนพบที่พักกลุ่มเป้าหมายใช้กบดานเพื่อใช้เป็นสถานที่ทำเอกสารพาสปอร์ตปลอม โดยจากการตรวจค้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาเป็นชาวเวียนนามได้ 4 ราย เครื่องอุปกรณ์ในการจัดทำพาสปอร์ตปลอม และพาสปอร์ของชาวจีนจำนวนหลายเล่ม ที่ผ่านมากองกำลังสุรนารี ได้ให้ความช่วยเหลือคนไทย และชาวต่างชาติ ที่ถูกหลอกไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่ช่องจอม จากฝั่งกัมพูชา จำนวน 13 ครั้ง สามารถช่วยเหลือได้ 37 ราย เป็นชาวไทย 35 ราย และ ชาวต่างชาติ 2 ราย ดำเนินการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยร่วมตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ และอินเตอร์เน็ต ร่วมกับสำนักงาน กสทช. เขต 22, เขต 23 และ หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ในการตัดสัญญาญทั้ง 3 จังหวัดแล้ว ทั้งนี้แนวโน้มการขยายตัวในพื้นที่กลุ่มทุนสีเทาในพื้นที่ชายแดน ทั้ง 3 จังหวัด พบว่ากลุ่มทุนสีเทาอาศัยผลประโยชน์จากผู้มีอิทธิพล เอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจ และยังคงรักษาสถานะเป็นพื้นพื้นที่ ที่สามารถกระทำผิดได้ต่อไป อย่างไรก็ตามกองกำลังสุรนารีจะได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปกครองจังหวัด และส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้ง 3 จังหวัดในการวางมาตรการเข้มงวดเพื่อเป็นการป้องกัน และปกป้องประเทศชาติให้ดีที่สุด