
กรณีเมื่อเวลา 22.20 น.ของวันที่ 23 ก.พ.68 พ.ต.ต.กษิดิศ พวงศรี สว.สอบสวน สภ.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.สังขะ ว่า มีเหตุกลุ่มวัยรุ่นรวมกลุ่มก่อเหตุทะเลาะวิวาทในหมู่บ้านที่บริเวณบ้านหนองกรวด ต.สะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ว่ามีคนถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด ได้รับบาดเจ็บ จึงพร้อมพวกออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ











จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า เป็นกลุ่มวัยรุ่นภายในหมู่บ้านเดียวกัน เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อน ซึ่งก่อนเกิดเหตุ นายนุ(ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) กับพวก ได้ขับรถจักรยานยนต์เบิ้ลเครื่องรถเสียงดัง ก่อความเดือนร้อนรำคาญ
จากนั้น น.ส.วิไลพร ทองจันทร์(แฟนผู้บาดเจ็บ) กับ นายบุญเที่ยง อินทร์สำราญ (ผู้ได้รับบาดเจ็บ)และ นายวุฒิศักดิ์ เจริญตาม (เสื้อลายสก็อตแขนยาว) ลูกพี่ลูกน้องผู้ได้รับบาดเจ็บ(คนที่ถูกยิงแต่ไม่เข้า) ซึ่งพักอาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวได้เดินไปกันที่หน้าบ้านเลขที่ 13/1 ม.9 ต. สะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ และบอกกับนายนุ ว่าอย่ามาเบิ้ลรถเสียดังก่อความเดือดร้อน จากนั้นระหว่างที่ทั้งสองได้เดินกลับออกจากบ้านเพื่อนนายนุได้ประมาณ 15 เมตร นายนุ ได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิด ยิงมาที่นายบุญเที่ยง อินทร์สำราญ(ผู้ได้รับบาดเจ็บ)และน.ส.วิไลพร ทองจันทร์(แฟนผู้บาดเจ็บ) กระสุนปืนถูกนายบุญเที่ยง อินทร์สำราญ(ผู้ได้รับบาดจ็บ) บริเวณต้นขาด้านขวา กระสุนฝังใน กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลสังขะ พร้อมกับส่งต่อโรงพยาบาลสุรินทร์ และนายนุ(ผู้ก่อเหตุ)ได้หลบหนีไป เหตุเกิดที่ บริเวณถนนภายในหมู่บ้านหนองกรวด ต.สะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568

นางเพ็ญพร มณีพร้าว เสื้อสีขาวสวมผ้าถุงสีแดง)(แม่ผู้ได้รับบาดเจ็บ) เล่าว่า ลูกชายตนไม่เคยรู้จักนายนุ(ผู้ก่อเหตุ)เลย ซึ่งเคยมีปัญาหากันเรื่องผู้หญิงตีกันแล้ว
ล่าสุดวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 42/3 หมู่ 9 ต.สะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ พบกับนางเพ็ญพร มณีพร้าว (เสื้อสีขาวสวมผ้าถึงสีแดง)(แม่ผู้ได้รับบาดเจ็บ) เล่าว่านายบุญเที่ยง อินทร์สำราญ(ผู้ได้รับบาดเจ็บ)ลูกชายตน ซึ่งในวันเกิดเหตุลูกชายตนกับน.ส.วิไลพร ทองจันทร์(แฟนผู้บาดเจ็บ) และนายวุฒิศักดิ์ เจริญตาม(เสื้อแขนยาวลานสก็อต) ลูกพี่ลูกน้องผู้ได้รับบาดเจ็บ(คนที่ถูกยิงแต่ไม่เข้า) ได้เดินออกมาจากบ้านเพื่อจะมาบอกกลุ่มวัยรุ่นที่มาเบิ้ลรถเสียงดัง แต่กลับถูกไล่ยิง ซึ่งตนคิดว่าน่าจะมาจากเรื่องที่เข้าไปห้ามผู้หญิงตีกัน จึงทำให้มีปัญหากันเรื่อยมา
เพ็ญนภา อินทร์สำราญ (เสื้อสีขาว) (น้องสาวคนเจ็บ) เล่าว่า เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะมาจากที่เมื่อหลายวันที่แล้วพี่ชายไปห้ามปรามผู้หญิงตีกันเพราะ1ในกลุ่มนั้นมากับกลุ่มผู้หญิง จึงมีปากเสียงกันขึ้นพร้อมกับแยกย้ายกันกลับ ต่อมากลุ่มวัยวัยรุ่นดังกล่าวได้ขับรถจักรยานยนต์มาทุกวันพร้อมกับเบิ้ลรถเสียงดังรอบหมู่บ้าน พี่ชายและพี่สะใภ้กับลูกพี่ลูกน้องจึงเดินเข้าไปหาเพื่อบอกว่าลูกชายกำลังหลับและป่วยอยู่อย่าเบิ้ลรถเสียงดัง เท่านั้นก็ถูกไล่ยิงจนได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายวุฒิศักดิ์ เจริญตาม ลูกพี่ลูกน้องผู้ได้รับบาดเจ็บ(คนที่ถูกยิงแต่ไม่เข้า)ถูกยิงด้วยแต่ไม่เข้าเป็นรอยรูกระสุนเข้าที่เสื้อเซิ้ตแขนยาวและเสื้อยืดมีรอยที่เข็มขัด
นายวุฒิศักดิ์ เจริญตาม (เสื้อเชิ้ตแขนยาวลานสก็อต)ลูกพี่ลูกน้องผู้ได้รับบาดเจ็บ(คนที่ถูกยิงแต่ไม่เข้า) เล่าว่า ตนและพี่ชายได้เดินเข้าไปบอกว่าอย่าเบิ้ลรถเสียงดังเท่านั้นก็ถูกไล่ยิงทำให้พี่ชายตนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และโชคดีที่ตนถูยิงเหมือนกันที่ไม่เข้า
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่บ้านเลขที่ 13/1 ม.9 ต. สะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นบ้านของนายธนายุทธ มั่นกิจ (เสื้อลายทหาร) อายุ 28 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ พบกับกลุ่มที่อยู่ในเหตุการณ์(เยาวชนหญิง)
เยาวชนหญิง เล่าว่า พวกตนได้นั่งเล่นและทานข้าวกันอยู่ เห็นนายบุญเที่ยง อินทร์สำราญ(ผู้ได้รับบาดจ็บ)ได้ถือปืนไม่ทราบชนิดมาแล้วยิงปืนขึ้นฟ้า 1นัด และนายวุฒิศักดิ์ เจริญตาม ลูกพี่ลูกน้องผู้ได้รับบาดเจ็บ(คนที่ถูกยิงแต่ไม่เข้า) ถือมีดเข้ามา พร้อมกับฟันรถจักรยานยนต์เพื่อนตนที่จอดไว้ พร้อมกับตะโกนว่ามาเบิ้ลรถเสียงดังทำไม ซึ่งพวกตนได้ลุกวิ่งหนี และผู้ก่อเหตุก็ได้เอาปืนไล่ยิงจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
สัมภาษณ์ นายธนายุทธ มั่นกิจ (เสื้อลายทหาร )อายุ 28 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ เล่าว่า นายบุญเที่ยง อินทร์สำราญ(ผู้ได้รับบาดเจ็บ)และ นายวุฒิศักดิ์ เจริญตาม (คนที่ถูกยิงแต่ไม่เข้า) นั้นมาถึงไม่พูดอะไรเลยได้ปรี่เข้ามาแล้วใช้อาวุธปินยิงขึ้นฟ้า 1 นัด พร้อมกับได้ถือมีดเข้ามาฟันที่รถจักรยานยนต์พร้อมทั้งปรี่เข้ามาจะฟันเพื่อนในกลุ่ม ซึ่งนายนุ (ผู้ก่อเหตุ)นั้นได้ชักอาวุธปืนที่ติดตัวมายิงสวนและได้วิ่งตามไปจึงทำให้นายบุญเที่ยง อินทร์สำราญ(ผู้ได้รับบาดเจ็บ)ดังกล่าว
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ทราบว่ากำลังติดตามตัวนายนุ(ผู้ก่อเหตุ) ซึ่งนายเด่นมีประวัติก่อคดีไว้มาก และยังมีคดีลักทรัพย์อยู่ในชั้นศาล โดยแจ้งกับญาติให้มามอบตัวโทษหนักจะได้เป็นเบา โดยทางแม่ของผู้ก่อเหตุนั้นบอกส่าพรุ่งนี้จะนำตัวลูกชายมามอบตัว ซึ่งข้อหาในเบื้องต้นพยายามฆ่าอีกด้วย
ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. นายนุผู้ก่อเหตุประส่นมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอเข้ามอบตัว จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายนุว่าต้องการจะพูดอะไรไหม นายนุจึงให้สัมภาษณ์
สัมภาษณ์นาย นุ (ขอสงวนชื่อนามสกุล) ผู้ก่อเหตุ ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนนั้นได้ไปนั่งเบ่นที่บ้านเพื่อน รุ่นน้องโทรมาบอกว่ารถจักรยานยนต์เสียจึงต้องคอยเบิ้ลรถตลอดและขี่เข้าหมู่บ้าน ตนรู้ว่าท่อรถดังจึงออกไปรับน้อง และก่อนออกจากบ้านแม่ได้บอกตนว่า อย่าไปก่อเรื่องอะไรนะเพราะพรุ่งนี้ต้องไปรับน้องเณร ตนจึงเก็บปืนและไปนั่งรอกินข้าวเย็นกับเพื่อนและน้องๆ พอน้องมาถึงในหมู่บ้านน้องก็เบิ้ลรถเสียงดัง เมื่อมาถึงบ้านเพื่อนที่เกิดเหตุ ตนเห็นว่ามีกลุ่มผู้เสียหายเดินกันมา 4-5คน แต่ตนเห็นว่าถือปืนและมีดมาด้วย จากนั้นกลุ่มน้องๆที่กินข้าวกันอยู่สังเกตเห็นปืนจึงตะโกนบอก ปืน จากนั้นตนจึงเดินไปที่ข้างบ้านที่ตนเก็บปืนเอาไว้ จากนั้นทางผู้บาดเจ็บได้ยิงปืนออกมาก่อนแต่โชคดีไม่ยิงโดนใคร จากนั้นทางผู้บาดเจ็บก็เข้ามาฟันและยิงปืนใส่กลุ่มน้องตน มีคนโดนฟันที่มือแต่ไม่ได้แจ้งความและรถตนก็โดนผู้ก่อเหตุฟัน จากนั้นตนจึงยิงปืนลงดินไม่คิดว่าปืนจะไปโดนคนจนได้รับบาดเจ็บ ตนไม่ได้ตั้งใจ นายนุกล่าว