
Mrs. Liu Hongmei กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดขอนแก่น พร้อมคณะเดินทางมาเยี่ยมองค์กรจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดร้อยเอ็ด โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก ดร. สถาพร มงคลศรีสวัสดิ์ ประธานมูลนิธิปึ๋งท้าวร้อยเอ็ด นายบรรจง โฆษิตจิรนันท์ นายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด และคณะ ณ ศาลเจ้าปุงถ่าวกงม่า ในโอกาสนี้ได้มอบหนังสือ “ปุงถ่าวกงม่า ศรัทธาร้อยปี วิถีมังกรร้อยเอ็ด” ให้กับท่านกงสุลใหญ่ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับประชาชนและเยาวชนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีนในร้อยเอ็ด ซึ่งมีรากฐานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 (พ.ศ. 2398) โดยชาวจีนกลุ่มแรกที่ตั้งรกรากคือ ตระกูลเกษมทรัพย์ และได้สร้างชุมชนการค้าเจริญรุ่งเรืองในพื้นที่ที่เรียกกันว่า “ถนนสายมังกร” หรือถนนผดุงพานิช













ดร. สถาพร เปิดเผยว่า ชาวไทยเชื้อสายจีนในร้อยเอ็ดให้ความเคารพศรัทธา “ปุงถ่าวกงม่า” มาอย่างยาวนาน และมีการจัดงานสมโภชเป็นประจำทุกปีในช่วงวันเพ็ญเดือน 12 ซึ่งตรงกับเทศกาลลอยกระทง โดยถือเป็นงานงิ้วที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน จัดต่อเนื่องถึง 12 วัน 12 คืน พร้อมกับการแข่งขัน “สิงโตดอกเหมย” ชิงถ้วยพระราชทาน ซึ่งมีทีมจากอาเซียนเข้าร่วมแข่งขันคึกคัก
กระชับความสัมพันธ์ไทย-จีน พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวภาคอีสาน กงสุลใหญ่จีนกล่าวชื่นชมชาวไทยเชื้อสายจีนในร้อยเอ็ดที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมจีนไว้เป็นอย่างดี พร้อมย้ำถึงมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างไทย-จีนที่มีมายาวนาน และแสดงความตั้งใจในการส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการกระตุ้นการท่องเที่ยวในภาคอีสาน ซึ่งปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยกว่า 6.7 ล้านคนต่อปี แต่ยังมีจำนวนน้อยที่มาเยือนภาคอีสาน
“เรามีแผนโปรโมทจังหวัดร้อยเอ็ดและภาคอีสานให้เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวชาวจีนมากขึ้น โดยเฉพาะแลนด์มาร์กสำคัญอย่าง ‘หอโหวด 101’ ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี” Mrs. Liu Hongmei กล่าว
นอกจากนี้ สถานกงสุลจีนยังมีแผนเชื่อมโยงระบบสื่อสารระหว่างจีนและไทยเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรม แหล่งท่องเที่ยว และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของภาคอีสานให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในประเทศจีน พร้อมกับแนะนำมหาวิทยาลัยในภาคอีสานให้กับนักศึกษาจีนที่สนใจ
การมาเยือนครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการพบปะเยี่ยมเยียนชาวไทยเชื้อสายจีนในร้อยเอ็ดเท่านั้น แต่ยังเป็นก้าวสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ไทย-จีน และผลักดันให้ภาคอีสานเป็นจุดหมายปลายทางใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนจากจีนในอนาคต