
วันที่ 13 มีนาคม 2568 นายเศก บูรณวรศิลป์ รองหัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริตสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิด กิจกรรมพัฒนาศักยภาพสมาชิกชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต ตามโครงการ Strong-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดร้อยเอ็ด ประจำปีงบประมาณ 2568 ซึ่งจัดขึ้นณ ห้องประชุมชั้น 3 เทศบาลตำบลสุวรรณภูมิ อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี พอ.ดร.สิน สีโสม ประธานโค้ช STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดร้อยเอ็ด พ.ต.อ.วัชรินทร์ ชาวงศกร นายสมเกียรติ รัตนเมธาธร โค้ชฯ STRONG และอดีตกรรมการ ป.ป.ช. ประจำจังหวัดร้อยเอ็ด ดร. อิศเรศ จิณฤทธิ์ เลขานุการโค้ชฯ STRONG คณะโค้ช และคณะกรรมการบริหารชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทจริตจังหวัดร้อยเอ็ด จากอำเภอโซนใต้ของจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน10 อำเภอ ร่วมกืจกรรม 130 คน












นายจักรพรรณ ชินสมบัติ ประธานกรรมการชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทจริตจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า โครงการ STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นโครงการตามยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยเน้นการปลูกฝังแนวคิด STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต ปรับฐานวิธีคิด แยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัว และผลประโยชน์ส่วนรวม ในการสร้างจิตสำนึก ความละอายในการทำทุจริต และไม่ทนต่อการทุจริต ให้แก่ประชาชนในระดับจังหวัด รวมทั้งเป็นการป้องกันการทุจริตเชิงรุก ยกระดับการรับรู้การทุจริตของชุมชน สังคมและประเทศ ชาติ ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งจะได้มีการดำเนินการตลอดปีงบประมาณ พ.ศ. 2568
กิจกรรมในวันนี้ คือ การพัฒนาศักยภาพสมาชิกชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริตโดยเน้นการปลูกฝังแนวคิด STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต ให้แก่เครือข่ายภาคประชาชน เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับสาเหตุ และภัยจากการทุจริต ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่คู่กับสังคมไทยมาเป็นเวลานาน สร้างความเสียหายให้แก่สังคมและประเทศชาติอย่างมหาศาล กระทบต่อสภาพเศรษฐกิจ และสังคมไทย และถือว่าการทุจริตเป็นภัยร้ายแรงอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ และสังคม กิจกรรมนี้เป็นการปลูกฝังจิตสำนึกให้แก่ประชาชนในพื้นที่ฯ ให้เป็นเครือข่ายการจับตามอง และแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำการทุจริตในพื้นที่ ซึ่งจะต้องมีการแจ้งข้อมูลการทุจริตให้แก่เครือข่ายภาคประชาชนชมรม STRONGฯ และสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ทราบ โดยรวมเป็นกลุ่มมวลชน ชมรม STRONG-จิตพอเพียงต้านทุจริต อันจะเป็นกำลังสำคัญในการร่วมกันป้องกันการทุจริตอย่างเข้มข้นต่อไป