
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 18 มีนาคม ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผวจ.อุดรธานี พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.อนุศักดิ์ ศักดาวัชรานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.จักรภพ ศรีจันทะ ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี ตำรวจกองกำกับการสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด

ผู้ต้องหาประกอบด้วยนายรุ่งฤทธิ์ มาตสุทธิ์ หรือหนึ่ง อายุ 24 ปี นายโม นามสมมติ อายุ 18 ปี (นายตะวัน ศรีเพชร ) ทั้งสองเป็นชาว จ.หนองคาย ของกลางยาบ้า 3,410,000 เม็ด รถกระบะยี่ห้อง อีซูซุ ดีเม็กด์ สีขาว ทะเบียน กต 4896 หนองคาย โดยจับกุมได้ที่ ถนนทางเข้าบ้านโพนสวรรค์ ต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย เมื่อเวลา 04.10 น. วันที่ 18 มีนาคม 2568 โดยมีคลิปตำรวจเข้าทำการจับกุมตัว
พ.ต.อ.อนุศักดิ์ฯ เปิดเผยว่า เมื่อเย็นวานนี้ (วันที่ 17 มี.ค.) พ.ต.อ.จักรภพ ฯ ได้รับรายงานจากสายลับว่า มีนายกะปิ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ชาวไทยอาศัยอยู่ใน สปป.ลาว ว่าจ้างให้นายหนึ่ง และนายโม ขนยาบ้า จากริมแม่น้ำโขง เขตบ้านปะโค ต.เวียงคุก อ.เมือง จ.หนองคาย ไปส่งให้ลูกค้าที่บ้านโพนสวรรค์ ต.สระใคร อ.สระใคร จ.หนองคาย จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.ไพฑูรย์ โสนะโชติ รอง ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี นำกำลังวางแผนจับกุม โดยนำกำลังไปดักซุ่มใกล้กับจุดนัดส่งยาบ้า

กระทั่งเวลา 04.00 น. วันที่ 18 มีนาคม พบนายหนึ่งและนายโม ขับรถยนต์กระบะอีซูซุ ดีเม็กด์ คันของกลาง ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตามที่ได้รับรายงานมาจอดจุดที่นัดหมาย แล้วลงไปขนกระเป๋าบรรจุยาบ้า 15 กระเป๋า จากริมแม่น้ำโขงใส่ท้ายกระบะ แล้วขับขี่มาบ้านโพนสวรรค์ ต.สระใคร ตำรวจจึงตัดสินใจขับรถปาดหน้าให้จอด และอีกคันจอดปิดท้าย สั่งให้นายหนึ่งและนายโม ลงจากรถ จากการตรวจค้นพบยาบ้าอยู่ในกระเป๋า 15 กระเป๋า รวม 3.4 ล้านเม็ด เป็นยาบ้าสีส้มอ่อน คล้ายกับวิตามินซี ซึ่งไม่เหมือนยาบ้าทางภาคอีสานซึ่งจะเป็นสีแดงส้ม จึงควบคุมตัวมากองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เพื่อขยายผล
จากการสอบสวนนายหนึ่งและนายโม ให้การรับสารภาพว่า ได้มีนายกะปิ ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ชาวไทยอาศัยอยู่ใน สปป.ลาว ว่าจ้างในนำยาบ้าที่นำมาวางไว้ริมแม่น้ำโขง แถวบ้านปะโค ไปส่งลูกค้าบ้านโพนสวรรค์ เมื่อส่งเสร็จจะได้ค่าจ้าง 1 แสนบาท ซึ่งพวกตนรับจ้างส่งยาบ้ามาแล้ว 1 ครั้ง แต่ได้ค่าจ้าง 8 หมื่นบาท กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุม ยาบ้าทั้งหมดจะนำไปจำหน่ายในเขตอุตสาหกรรมแถว จ.พระนครศรีอยุธยา ตำรวจจึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สระใคร และทำการตรวจยึดทรัพย์สิน ตาม พ.ร.บ.มาตรการ ยึดรถยนต์กระบะ อีซูซุ ดีเม็กด์ สีขาว ทะเบียน กต 4396 หนองคาย มูลค่า 5 แสนบาทด้วย





นายราชันย์ กล่าวว่า การจับยาบ้า 3.4 ล้านเม็ด ถือเป็นผลงานของตำรวจอุดรธานี ซึ่งได้ช่วยกันปราบปรามยาเสพติด ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ซึ่งเช้ามืดวันนี้ ได้มีการสืบสวนสอบสวนจนทำให้ทราบว่าจะมีการขนยาบ้าจำนวนมากจากริมฝั่งแม่น้ำโขง อ.เมือง จ.หนองคาย เข้ามาส่งลูกค้าใน อ.สระใคร จ.หนองคาย ก่อนจะนำยาบ้าไปส่งที่เขตอุตสาหกรรม จ.พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดต่างๆ ในภาคกลาง ซึ่งเราได้ร่วมมือกันทุกภาคส่วนทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ซึ่งทุกคนเป็นหูเป็นตาในการปราบปรามยาเสพติด ไม่ให้เยาวชนและลูกหลานตกเป็นทาสยาเสพติด