
สุรินทร์ คลายร้อน ผู้คนยังหลั่งไหลมาเที่ยวอ่างเก็บน้ำห้วยลำพอก(ทะเลแหวก)อย่างไม่ขาดสาย ขณะที่บรรดาชาวต่างชาติทยอยมาเที่ยวชม พร้อมกับอยากให้ทางผู้นำท้องถิ่นจัดเป็นสถานที่แหล่งท่องเที่ยวครบวงจร

วันที่ 18 มีนาคม 2568 ที่อ่างเก็บน้ำห้วยลำพอก หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ทะเลแหวก” ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของชลประทาน ตำบลระแงง อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์บนเนื้อที่ 7 พันกว่าไร่ โดยในวันธรรมดาจะมีบรรดาผู้ปกครองได้นำบุตรหลานพามาเที่ยวชม เนื่องจากอยู่ในระหว่างช่วงปิดภาคเรียน ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์ จะมีบรรดาชาวบ้านใกล้เคียงและผู้ปกครองต่างได้นำบุตรหลานมาเที่ยวชมทะเลแหวก หรือทะเลน้ำจืด ที่มีพื้นที่ตรงกลางมีเกาะตั้งอยู่ ในช่วงที่มีอากาศร้อนส่วนพ่อค้าแม่ค้าต่างมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ

คุณยายอ้อย อายุ 65 ปี บ้านอยู่ที่ จ.ร้อยเอ็ด แม่ค้าหาบขายของเร่ตามงานต่าง ๆได้นำพวกส้ม มะม่วง และขนมขบเคี้ยวนำมาหาบขายภายในบริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยลำพอก โดยบอกว่ารายได้ตกเฉลี่ยวันละ 1 พันกว่าบาท จะขายดีในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ซึ่งผู้คนก็จะมาเที่ยวชมและเล่นน้ำกันเยอะ เพราะสิ่งของที่นำมาขายส่วนมากกลุ่มวัยรุ่นชอบกินโดยเฉพาะมะม่วง และขนมขบเคี้ยว
ทางด้านนายสตีฟ อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นชาวอังกฤษได้เดินทางมาท่องเที่ยวที่พัทยาหลังจากที่ได้ทราบข่าวว่าที่อำเภอศีขรภูมิได้มีทะเลน้ำจืด จึงได้พาครอบครัว ซึ่งเป็นชาวบ้านลุมพุก ต.หนองเหล็ก อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ พากันมาเที่ยวชม และถือว่าดีมากเพราะทะเลน้ำจืดเป็นสีเขียวเหมือนกับน้ำทะเลที่สวย และสดใส จึงอยากจะให้หน่วยงานที่รับผิดชอบได้จัดทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยการนำสุราหรือไม่ก็ลานเบียร์นำมาบริการ และมีหมอนวดแผนโบราณนำมาบริการให้กับบรรดานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และชาวไทย ซึ่งถือว่าจะมีรายได้ดีด้วย

นายสตีฟ ยังบอกอีกว่า ตนเองชอบกินส้มตำไทย และวันนี้อยากจะกินแต่เนื่องจากว่าถ้ากินไปแล้วอาจจะท้องเสีย และห้องน้ำไม่มี จึงไม่กล้าสั่งส้มตำไทยมากินเพราะกลัวไม่มีห้องสุขา ห้องน้ำไว้เข้าบริการ ประกอบกับทีมงานที่เดินทางมาเที่ยวก็อยากให้ทางคนไทยได้จัดอะไรที่ดีกว่านี้ เพราะถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน เพราะน้ำใสสีเขียวและสวยมาก…..นายสตีฟ กล่าว
ถึงอย่างไรก็ตามเมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางอำเภอศีขรภูมิ, ชลประทานจังหวัดสุรินทร์ และภาคีเครือข่าย ได้จัดทำการประชุม เพื่อปรึกษาหารือในการประชาสัมพันธ์ให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้เดินทางมาเที่ยวชมทะเลแหวก และได้สั่งการให้ อบต.แต่ละ อบต.ที่อยู่ในเขตพื้นที่รับผิดชอบร่วมกันประกอบไปด้วย อบต.ระแงง, อบต.กุดหวาย, และอบต.ยาง ให้จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ในเขตพื้นที่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังในการเล่นน้ำ และห้ามนำสุรามาจำหน่ายในพื้นที่ ตลอดจนการทำความสะอาดไม่ให้มีขยะมูลฝอยเกิดขึ้น เพราะอาจจะทำให้น้ำเสีย และสิ่งปฏิกูลตลอดจนสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ถึงแม้ว่าจะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในระยะสั้น แต่ทำให้ประชาชนในเขตพื้นที่ได้มีรายได้เข้ามาในช่วงเศรษฐกิจแบบนี้ไม่มากก็น้อยแต่ถือว่าดีที่สุดแล้ว อย่างน้อยชาวบ้านในพื้นที่พอมีรายได้จุนเจือครอบครัว และลูกหลานในช่วงปิดเทอมจะไม่ต้องไปเที่ยวไกล หรือไปเที่ยวในพื้นที่ เอกชนเปิดให้บริการถือว่าค่าใช้จ่ายต่อหัวรวมคนละ 1 พันบาทเลยทีเดียว แต่หากมาเที่ยวที่ทะเลแหวกแห่งนี้ไม่ต้องมีเงินค่าหัวและไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรมากมาย เพียงมีเงินติดตัวมา 100 บาท ก็สามารถนำมาจับจ่ายซื้อขนมขบเคี้ยวได้โดยประหยัดรายจ่ายไปได้หลายวันเลยทีเดียว