
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 26 มีนาคม 2568 พ.ต.อ.อัมรินทร์ อยู่เย็น ผกก.สภ.กุดจับ พ.ต.ท.รัชพงศ์ อาจแก้ว รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.เจริญ อนันต์เอื้อ สว.สส.พร้อมด้วยชุดสืบสวน ได้เข้าจับกุมนายศุภวัฒน์ บุดดี หรือมอส อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 152 ม.5 บ.โสกแก ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ในข้อกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ทรัพย์ และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท ราคา 49,450 บาท และเมื่อนำมาตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดผลตรวจเป็นบวก











ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 17.55 น. วันที่ 25 มีนาคม พ.ต.ท.องอาจ ปลัดขวา สว.สอบสวน สภ.กุดจับ ได้รับแจ้งจากนายศุภฤกษ์ เยี่ยมนภาโยธิน อายุ 25 ปี หรือบอย ผู้รับเหมาก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยเชียงตอนบน ชาว ต.นาปู่ป้อม อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ว่าเมื่อช่วงเที่ยงวัน ได้เอารถปิคอัพ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน ยธ 5058 เชียงใหม่ เข้าไปล้างในคาร์แคร์มีชื่อแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.กุดจับ อ.กุดจับ หลังล้างรถเสร็จ ปรากฎว่าสร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท ที่เก็บไว้ในเกะเก็บของด้านหน้าฝั่งซ้ายหายไป สอบถามเจ้าของคาร์แคร์ และพนักงานล้างรถชายหญิง 3 คน ต่างไม่มีคนรู้เห็น จึงมาแจ้งความให้ตำรวจช่วยติดตามพนักงานรับรถชื่อนายมอส มาสอบสวน เพราะเชื่อว่าเป็นผู้ก่อเหตุ
ความคืนหน้าต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 มีนาคม 2568 ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กุดจับ ได้เชิญตัวนายมอส มาสอบสวน ทีแรกให้การปฏิเสธ หลังจากที่ตำรวจได้เค้นสอบจนยอมรับสารภาพได้ขโมยสร้อยไปจริง จึงนำตำรวจไปตรวจยึดของกลางที่เก็บซ่อนไว้ข้างหิ้งพระ หลังตู้เก็บที่นอนหมอนมุ้งภายในบ้านพัก จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวน ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นพนักงานล้างรถมาตั้งแต่ นายจ้างเปิดคาร์แคร์ ประมาณ 1 ปีกว่า ไม่เคยขโมยทรัพย์สินของลูกค้าเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรก เนื่องจากตนมีหนี้สินจากการซ่อมรถจักรยานยนต์ประมาณ 4-5 พัน
นายมอสฯ ให้การต่อไปว่าขณะทำความสะอาดอยู่ภายในรถ เห็นตลับสร้อยคอทองคำอยู่ในเกะเก็บของ จึงเกิดกิเลสบังตา อยากได้นำไปขายใช้หนี้ จึงก่อเหตุแต่ยังไม่ได้ไปขาย และขอสัญญาว่าเมื่อพ้นโทษออกมาจะกลับตัวตัวกลับใจไม่ลักของคนอื่นอีก และจะเลิกเสพยาบ้าด้วย ปัจจุบันเสพวันละ 2-3 เม็ด หลังติดเสพยาบ้ามาตั้งแต่จบชั้น ม.3 โดยซื้อมาในราคาเม็ดละ 40-50 บาท หลังจากนั้นนายมอสได้ยกมือไหว้ขอโทษนายศุภฤกษ์ เยี่ยมนภาโยธิน เจ้าของสร้อยคอทองคำ หลังจากสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไป ซึ่งผู้เสียหายก็ให้อภัย แต่ด้านเรื่องคดีความก็ให้ตำรวจดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
นายศุภฤกษ์ฯ กล่าวว่า ตนและครอบครัวญาติพี่น้องเดินทางมาจากบ้าน เพื่อมารับเหมาก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยเชียงตอนบนได้ประมาณ 1 ปีกว่า และเอารถมาล้างที่คาร์แคร์ที่เกิดเหตุประจำ ทรัพย์สินก็ไม่เคยหาย และทุกครั้งเวลาเอารถมาล้างภรรยาและตนจะเก็บออกมาจากรถ แต่ครั้งนี้ทั้งตนและภรรยาลืมสนิท พอล้างเสร็จภรรยาตนบอกว่าตลับสร้อยทองหาย จึงไปสอบถามเจ้าของคาร์แคร์ และพนักงานก็ไม่มีใครรู้เห็น จึงมาแจ้งความให้ตำรวจเชิญพนักงานรับรถมาสอบสวนในวันนี้ และก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนขโมยไปจริง
“สร้อยคอทองคำเส้นนี้ ตนเก็บเงินซื้อให้ภรรยาสวมใส่ในงานวันเกิด และเป็นเงินที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงของตนทั้งสิ้น และขอฝากเตือนภัยคนที่เอารถไปล้างในคาร์แคร์ ควรเก็บทรัพย์สินมีค่าออกจากรถ ไม่เช่นนั้นก็จะถูกขโมยไปเหมือนกับตนเอง แต่โชคยังดีที่ตำรวจ ติดตามจับคนร้ายและสร้อยทองกลับคืนมาได้ ตนเชื่อว่าเมื่อมีความโชคร้าย แต่ก็มีความโชคดีตามมา ตนจะนำทะเบียนรถปิคอัพของตนคือ 5058 ไปเสี่ยงโชคซื้อลอตเตอรี่ ในงวดที่จะถึงนี้ และเมื่อเช้าวันนี้ก็ได้ซื้อเก็บไว้แล้ว”