
หลังสงกรานต์สาดความสุขฉ่ำปอด เหล่านักเล่นน้ำต่างต้องกุมขมับ เมื่อโทรศัพท์มือถือสุดรักสุดหวง ดับสนิท จอแตก น้ำเข้า กลายเป็นอัมพาตไปเสียอย่างนั้น! บรรยากาศที่เคยคึกคักไปด้วยเสียงเพลงและรอยยิ้ม กลับกลายเป็นเสียงถอนหายใจของบรรดาผู้ประสบภัยมือถือพัง


วันที่ 16 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดนครพนม ร้านซ่อมโทรศัพท์มือถือหลายแห่งในตัวเมืองคึกคักเป็นพิเศษ โดยเฉพาะร้าน สมาร์ทโฟน เซอร์วิส หน้าเซเว่น ใกล้ บขส. ที่คลาคล่ำไปด้วยลูกค้านำโทรศัพท์จมน้ำ ถูกน้ำเข้า มาให้ซ่อม คิวซ่อมยาวเหยียดวันแรกนับสิบเครื่อง
ช่างปลั๊ก หรือ นายจตุรงค์ ทุมหอม ช่างซ่อมมือถือฝีมือดีแห่งร้านสมาร์ทโฟน เซอร์วิส ถึงกับออกปากว่า “สงกรานต์ปีนี้งานเข้าหนักจริงๆ ครับ วันนึงรับซ่อมไม่ต่ำกว่า 10 เครื่อง มือเป็นระวิงแทบไม่มีเวลาพัก” ใบหน้าของช่างปลั๊กดูอิดโรย แต่แววตายังคงมุ่งมั่นที่จะช่วยกอบกู้ชีพสมาร์ทโฟนให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ค่าซ่อมมือถือ” สมาร์ทโฟนก็ไม่ใช่ถูกๆ! เริ่มต้นเบาๆ ที่หลักร้อยสำหรับการเปลี่ยนจอที่ร้าวระบม ไปจนถึงหลักพันบาท สำหรับเคสหนักหนาสาหัส เช่น น้ำเข้าแผงวงจร หรือชิ้นส่วนภายในเสียหาย


ช่างปลั๊กยังฝากคำเตือนถึงผู้ประสบภัยทั้งหลายว่า “อย่าหาทำ! แช่ข้าวสารหวังจะดูดความชื้น” เพราะนั่นอาจเป็นการซ้ำเติมอาการป่วยของโทรศัพท์ให้หนักกว่าเดิม ทางที่ดี ควรรีบนำส่งร้านซ่อมที่ไว้ใจได้ใกล้บ้าน เพื่อให้ช่างผู้เชี่ยวชาญวินิจฉัยและทำการรักษาอย่างถูกวิธี หากอาการไม่หนักหนาสาหัส ก็อาจจะสามารถรอรับกลับบ้านได้เลย


มือถือพังหลังสงกรานต์…อย่าเพิ่งสิ้นหวัง! ร้านซ่อมมือถือพร้อมเป็นฮีโร่กู้ชีพให้โทรศัพท์ของคุณกลับมาสดใสซาบซ่าได้อีกครั้ง เพียงแต่! โปรดเลือกร้านที่มีความน่าเชื่อถือ มีการรับประกัน และมีช่างที่มีความชำนาญ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าโทรศัพท์สุดที่รักของคุณจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด



ท้ายนี้ ช่างปลั๊กฝากย้ำเตือนด้วยความเป็นห่วงว่า “การป้องกันดีกว่าการแก้ไข” โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่ต้องเผชิญกับน้ำ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ และเลือกใช้เคสกันน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้โทรศัพท์ต้องมานอนหยอดน้ำข้าวต้มที่ร้านซ่อมหลังสงกรานต์!