
นครพนม – ระทึกด่านพรมแดน! เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 16 เมษายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนครพนม (ตม.จว.นครพนม) โชว์ผลงานสุดเฉียบ จับกุม MR.NGUYEN หรือ นายเหงียน อายุ 47 ปี หนุ่มใหญ่ชาวเวียดนาม ผู้ต้องหาตามหมายจับของทางการเวียดนามและหมายแดงตำรวจสากล (INTERPOL Red Notice) ได้คาหนังคาเขา ขณะเตรียมเผ่นหนีข้ามแดนไปยัง สปป.ลาว ผ่านจุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม – คำม่วน)

ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายเข้มงวดของ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. และผู้บังคับบัญชาระดับสูง ที่สั่งการให้กวดขันกลุ่มชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม หรือกลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่อาจแฝงตัวเข้ามาในประเทศไทย โดยมี พ.ต.อ.ภัทรพงศ์ อินวรรณ ผกก.ตม.จว.นครพนม เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์
พ.ต.ท.เกียรติคุณ ดวงแก้ว สว.ตม.จว.นครพนม เปิดเผยว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้รับการประสานจากสถานทูตเวียดนามประจำประเทศไทย เกี่ยวกับ MR.NGUYEN ผู้ต้องหาที่มีหมายจับในข้อหายักยอกทรัพย์โดยการฉ้อโกง และยังเป็นบุคคลที่ตำรวจสากลต้องการตัว โดยพบว่าผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทยและพยายามใช้หนังสือเดินทางพร้อมวีซ่าทำงาน (NON-LA) เดินทางออกนอกประเทศ

จากการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่าวีซ่าของ นายเหงียน ถูกเพิกถอนไปแล้วตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2568 ทำให้เขาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่ ตม.นครพนม จึงเร่งสืบสวนติดตามจนกระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด ขณะที่ผู้ต้องหากำลังจะหลบหนีออกนอกประเทศผ่านทางจังหวัดนครพนม
พ.ต.ท.เกียรติคุณ กล่าวเพิ่มเติมถึงพฤติการณ์สุดแสบของผู้ต้องหารายนี้ว่า นายเหงียน ได้หลอกลวงเพื่อนร่วมชาติชาวเวียดนามที่กำลังว่างงาน โดยอ้างว่าจะสามารถหางานถูกกฎหมายในประเทศไทยให้ได้ พร้อมค่าแรงสูงถึง 2.5 ล้านดองต่อเดือน (ประมาณ 3,000 กว่าบาท) แต่มีข้อแม้ว่าเหยื่อแต่ละรายจะต้องเสียค่าดำเนินการเอกสารเป็นเงินถึง 9 ล้านดอง (ประมาณ 10,000 กว่าบาท)

เคราะห์ร้ายที่เหยื่อผู้หลงเชื่อถึง 11 ราย เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทยกลับพบว่าได้รับเพียงวีซ่านักท่องเที่ยว และถูกจับกุมในที่สุดเนื่องจากทำงานผิดกฎหมาย ก่อนที่จะถูกส่งตัวกลับประเทศเวียดนาม ทำให้ทางการเวียดนามต้องการตัว นายเหงียน กลับไปดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งข้อหา “เป็นคนต่างด้าว (เวียดนาม) อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด หรือถูกเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร” ก่อนที่จะส่งตัว นายเหงียน ให้กับกองบังคับการสืบสวนสอบสวนสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป คดีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางมาทำงานในต่างประเทศ ควรตรวจสอบข้อมูลและดำเนินการตามช่องทางที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ