
เปิดคลิปผู้ต้องหาหลบหนีขณะกำลังนำตัวส่งศาลอุดรฯแต่ไปไม่รอด สุดท้ายโดนรวบ อ้างคิดถึงแม่เพราะแม่ชราอยู่คนเดียว


เมื่อเวลา 12.10 น.วันที่ 16 เมษายน ขณะที่ ร.ต.อ.สถาพร สวัสดี รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับแจ้งว่า มีผู้ต้องหาหลบหนีขณะตำรวจ สภ.บ้านดุง นำมาฝากขังศาลจังหวัดอุดรธานี หลังจากได้รับแจ้งจึงรีบนำกำลังรีบรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี และ พ.ต.ท.พิเชฐ ปักเคธาติ รอง ผกก.สส.


ที่เกิดเหตุพบ ร.ต.อ.ราชวรรณ ขวัญศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ได้เปิดเผยว่า ก่อนนี้ได้ควบคุมตัวนายพีระพล จำปาทอง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108 หมู่ 6 ต.วังทอง อ.บ้านดุง ผู้ต้องหา ลักทรัพย์ (สว่านไฟฟ้า เครื่องเจียรไฟฟ้าประแจเลื่อน เลื่อยโซ่ยนต์ เงินสด 300 บาท และพระเครื่อง ) และเสพยาเสพติดประเภท 1 โดยผิดกฎหมาย มาฝากขังที่ศาลจังหวัดอุดรธานี ขณะที่ตำรวจได้ถอดกุญแจมือออก นายพีระพล อาศัยจังหวะเผลอวิ่งหลบหนีออกจากศาลจังหวัดอุดรธานี ไปทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี จากนั้นจึงได้แจ้งเหตุทางวิทยุ 191


หลังจากที่ พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ ฯ ได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลนครอุดรธานีพบว่านายพีระพล ผู้ต้องหา ได้วิ่งหลบหนีออกจากข้างประตูศาลจังหวัดอุดรธานี แล้ววิ่งข้ามถนนไปปีนเข้าไปในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี จึงได้สั่งตำรวจสายตรวจ 191 พร้อมด้วยตำรวจผู้สืบสวนกระจายกำลังออกค้นหาภายในสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานีตามจุดต่างๆ แต่ไม่พบ จึงได้ออกตามหาตามเส้นทาง โดยมีชาวบ้านพลเมืองดีแจ้งเบาะแสว่าคนร้ายมุ่งหน้าไปทาง สถานีขนส่งแห่งที่ 1 เขตเทศบาลนครอุดรธานี

ต่อจากนั้น ตำรวจชุดสายตรวจไปพบ นายพีระพล ฯ กำลังเดินออกมาจากสถานีขนส่งแห่งที่ 1 เมื่อพบตำรวจนายพีระพลได้วิ่งหลบหนีไม่ยอมให้จับ ตำรวจไล่ติดตามใกล้ถึงสี่แยกรวมทวี นายพีระพล ได้ วิ่งหลบหนีแล้วไปปีนข้ามรั้วเข้าไปยังโรงแรมเจริญโฮเต็ล เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถไปสกัดที่หน้าโรงแรม นายพีระพลได้หนีลงไปในคลองน้ำ จากนั้นจึงได้วิ่งขึ้นถนน ย้อนกลับไปที่สี่แยกรวมทวี เจ้าหน้าที่ได้ล้อมจับพร้อมพลเมืองดี
จากการสอบสวนนายพีระพล ให้การว่า โดนจับข้อหาลักทรัพย์ ตำรวจหลอกเขาว่า หากเขาได้ทรัพย์สิน เลื่อยและลูกหนูคืนจะไม่จับ แต่หลังจากได้ทรัพย์สินแล้วสุดท้ายก็ยังจับ ตนจะหนีกลับบ้าน แต่ตนไม่มีเงินขึ้นรถโดยสาร ตนไม่อยากเข้าคุก เพราะว่าตนอยู่กับแม่ 2 คน สงสารแม่ที่แก่ชราไม่มีคนดูแล อยากกลับไปอยู่กับแม่ แต่ตำรวจหลอกตนว่าจะจับแค่เสพยาเท่านั่น แต่ในสำนวนมันมีข้อหาลักทรัพย์ด้วย ตำรวจโกหก ตนเคยโดนจับมาแล้ว 4 ครั้ง มีเสพยาบ้าด้วย หลังจากนั้นตำรวจจึงแจ้งข้อหา “หลบหนีการควบคุม” นำตัวส่งศาลจังหวัดอุดรธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป