
สถานการณ์ความต้องการโลหิตที่จังหวัดกาฬสินธุ์เพิ่มปริมาณมากขึ้น โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ร่วมกับโรงพยาบาลแม่ข่าย 18 อำเภอและสำนักงานเหล่ากาชาดฯ จัดหน่วยบริการรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ เพื่อนำโลหิตเข้าธนาคารเลือดและช่วยเหลือผู้ป่วย พร้อมเปิดรับบริจาคอวัยวะ “หนึ่งคนให้หลายคนรับ” สร้างกุศลยิ่งใหญ่ส่งต่อชีวิตใหม่ให้กับผู้ป่วย ถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ในโอกาสเดือนมหามงคลคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2568


ที่หอประชุมอำเภอยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ พญ.จารุพรรณ มโนสิทธิศักดิ์ ผอ.รพ.กาฬสินธุ์ และ ผศ.พิเศษ นพ.สุรเชษฐ์ ภูลวรรณ นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ ผอ.รพ.ฆ้องชัย รักษาราชการแทน ผอ.รพ.ยางตลาด มอบหมายนายสุลักษณ์ เสนาวุฒิ สาธารณสุข อ.ฆ้องชัย นายศักดาพล โกสุมภ์ศิริ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รพ.สต.บ้านโคกศรี และเจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล ร่วมกับคณะกรรมการเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ จัดหน่วยเคลื่อนที่ออกรับบริจาคโลหิตและอวัยวะ โดยมีนายเอกรัตน์ มิสา นายอำเภอยางตลาด พร้อมด้วยนางรุจิเรข จันทรสมบัติ ปลัดอาวุโสฯ นายตระกูล ภูจีระ กำนัน ต.นาดี, นายวัฒนา ภูตรี กำนัน ต.เขาพระนอน และส่วนราชการ ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชน ร่วมบริจาคเป็นจำนวนมาก


นายเอกรัตน์ มิสา นายอำเภอยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับการบริจาคโลหิตและบริจาคอวัยวะนั้น ที่ผ่านมาทางอำเภอยางตลาด ได้ร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ ท้องถิ่น ท้องที่ สถานศึกษา พี่น้องประชาชน ให้ความร่วมมือกับโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ โรงพยาบาลยางตลาด และเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ บริจาคทุกๆ 3 เดือน นอกจากนี้ยังประชาสัมพันธ์ ยังจัดกิจกรรมรณรงค์เชิญชวนร่วมบริจาคโลหิตและอวัยวะให้กับสภากาชาดไทย ทั้งในภาวะปกติ และในโอกาสมหามงคลวันสำคัญอย่างต่อเนื่อง เช่น วันเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร, วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง, วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว


และในช่วงเดือนเมษายน 2568 นี้ ที่เป็นเดือนมหามงคลคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ นี้ด้วย ทั้งนี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระเกียรติ ตามแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ “ประชาชนสุขภาพดี เจ้าหน้าที่มีความสุข ระบบสุขภาพยั่งยืน”


ด้านนายศักดาพล โกสุมภ์ศิริ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ รพ.สต.บ้านโคกศรี กล่าวว่า ทต.โคกศรี อ.ยางตลาด กล่าวว่าในส่วนของการจัดหน่วยเคลื่อนที่ออกรับบริจาคโลหิตในครั้งนี้ พญ.จารุพรรณ มโนสิทธิศักดิ์ ผอ.รพ.กาฬสินธุ์ และ ผศ.พิเศษ นพ.สุรเชษฐ์ ภูลวรรณ นายแพทย์เชี่ยวชาญด้านเวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ ผอ.รพ.ฆ้องชัย รักษาราชการแทน ผอ.รพ.ยางตลาด ได้ร่วมกับกรรมการเหล่ากาชาด จ.กาฬสินธุ์ รวมทั้งชมรมแม่บ้านสาธารณสุขฯ ทีมบุคลากรสุขภาพ สหวิชาชีพ กลุ่มการพยาบาล กลุ่มงานเทคนิคการแพทย์ เจ้าหน้าที่ธนาคารเลือด รพ.กาฬสินธุ์และรพ.ยางตลาด เพื่อให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ผู้บริจาคโลหิต ที่มีจิตอาสาและจิตใจอันเป็นกุศล รวมทั้งมีการประชาสัมพันธ์ เชิญชวนบริจาคอวัยวะให้กับสภากาชาดไทยด้วย โดยโลหิตและอวัยวะที่ได้รับจากการบริจาค จะได้นำเข้าธนาคารเลือด ช่วยเหลือผู้ป่วยและผู้ต้องการอวัยวะเปลี่ยนถ่ายต่อไป


นายศักดาพลกล่าวอีกว่า สำหรับการรับบริจาคโลหิตและอวัยวะ เป็นอีกภารกิจสำคัญของโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ โรงพยาบาลยางตลาด และโรงพยาบาลแม่ข่ายทั้ง 18 แห่ง ใน จ.กาฬสินธุ์ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องการโลหิตและอวัยวะ มุ่งสู่โรงพยาบาลศูนย์ชั้นนำระดับประเทศ ขณะที่โรงพยาบาลยางตลาด และโรงพยาบาลประจำอำเภอทุกแห่ง ก็มุ่งสู่โรงพยาบาลแม่ข่าย ที่เป็นเลิศใน จ.กาฬสินธุ์ เพื่อสร้างความประทับใจ ให้บริการการสร้างสุขภาพ ตลอดทั้งการรักษาพยาบาล สร้างรอยยิ้มให้กับพี่น้องประชาชน ที่เข้ามาใช้บริการด้านสุขภาพ


สำหรับสถานการณ์ความต้องการโลหิตทุกกรุ๊ป ของโรงพยาบาลกาฬสินธุ์และโรงพยาบาลประจำอำเภอทั้ง 18 แห่งใน จ.กาฬสินธุ์นั้น ยังขาดแคลนและมีความต้องการปริมาณที่สูงขึ้น ทั้งนี้ เพื่อป้องกันปัญหาเลือดขาดแคลน และให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างเพียงพอ ขณะที่สภากาชาดไทย มีความต้องการอวัยวะ เช่น ดวงตา ไต หัวใจ ปอด ตับ ตับอ่อน เพื่อนำไปปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วยที่รอความช่วยเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก


จึงขอเชิญชวนส่วนราชการ พี่น้องประชาชนทั่วไป ที่มีความประสงค์จะบริจาคโลหิตและอวัยวะ สามารถติดต่อได้ที่ ที่ทำการปกครองทุกอำเภอ โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัด ในวันเวลาราชการ เพราะคำว่าให้ไม่มีที่สิ้นสุด อานิสงส์ของการบริจาคโลหิต เป็นการช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ และบริจาคอวัยวะ “หนึ่งคนให้หลายคนรับ” ถือเป็นการสร้างกุศลยิ่งใหญ่ ส่งต่อชีวิตใหม่ให้กับผู้ป่วยอีกด้วย