วันที่ 6 ก.ค. 2566 ได้มีผู้ใช้เฟสบุ๊กคนหนึ่งโพสต์ระบายความรู้สึกและคลิปขณะลูกชายนั่งร้องไห้ พร้อมถามหาจรรยาบรรณแพทย์ โดยระบุข้อความว่า “พี่ต้น(หมายถึงลูกชาย) ตกใจเมื่อเห็น คุณหมอ แสดงกิริยาใส่แม่ ถ้าได้พบและอธิบายให้กับท่านผู้ตรวจราชการโรงพยาบาลฟังก็คงจะดี คุณหมอเด็ก ที่ลูกชายเคยตรวจคือ ใจดี สุภาพ พูดเพราะ..ไม่ใช่นั่งชี้หน้าต่อว่าแม่เด็ก ผู้หญิงกับเด็ก2คน เด็กนั่งร้องไห้ข้างๆ แม่ คุณทำได้ยังไง ใจคุณทำด้วยอะไร หรือนี้คือพฤติกรรมธรรมดาของนายแพทย์กุมารแพทย์.. หรือจรรยาบรรณคุณหมอคือแบบนี้เหรอ #รักษากายแล้วต่อไปยังต้องไปหาจิตแพทย์ด้วยทั้งแม่และลูก มันเลวร้ายต่อจิตใจเราเกินไป เกินที่ใจเราจะรับไหว” หลังจากโพสต์ระบายความรู้สึก ก็มีคนเข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก



จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังผู้โพสต์ ก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้พาลูกชายวัย 8 ขวบไปตรวจอาการหอบหืดและภูมิแพ้ ที่ รพ.แห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ ตามที่หมอนัด แต่ช่วงที่หมอมาตรวจก็จะถามว่าเป็นอะไรมา ซึ่งแม่ก็แค่บอกอาการของลูกและกำลังอธิบายว่าก่อนหน้านี้ลูกไปเจออะไรมาถึงมีอาการแบบนี้ แต่คุณหมอกลับหันมาต่อมาตนเองด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่พอใจ ทั้งยังพูดว่าถ้าไม่พอใจจะรักษาที่นี่ก็ไปรักษาที่อื่น ซึ่งแม่ก็งงว่าแค่จะอธิบายอาการลูกให้ฟังเท่านั้นแต่ทำไมหมอต้องมาต่อว่า คุณแม่จึงเดินออกมานอกห้องตรวจเพราะรู้สึกตกใจ แต่คุณหมอก็ยังชี้หน้าผ่านห้องตรวจแล้วพูดว่าถ้าเก่งจริงเข้ามาพูดข้างใน ซึ่งตอนที่หมอขึ้นเสียงต่อมาแม่และชี้หน้าเหมือนจะเอาเรื่อง ลูกชายตนก็เห็นและได้ยินทุกอย่างจนลูกชายกลัวนั่งร้องไห้ พอกลับมาถึงบ้านน้องก็โทรเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้พ่อที่รับราชการอยู่ต่างจังหวัดฟัง
ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดเหตุรู้สึกตกใจและไม่สบายใจ โดยเฉพาะลูกชายซึ่งเขายังเป็นเด็กแต่กลับมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ก็กระทบกับสภาพจิตใจมาก ซึ่งที่นำเรื่องราวมาโพสต์แค่ต้องการระบายความรู้สึก และอยากให้คุณหมอปรับปรุงการใช้คำพูดกับคนไข้ เพราะเชื่อว่าไม่ใช่แค่ตนเองที่เจอแบบนี้