วันที่ 7 ก.ค. 2566 ที่ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น (ฝ่ายอนุบาล) ได้จัดซ้อมแผนจำลองเหตุการณ์มีชายคุ้มคลั่งพกอาวุธเข้ามาในโรงเรียน ครูนักเรียนและเครือข่ายร่วมซ้อมแผนเพื่อให้ตระหนักถึงการป้องกันและเอาตัวรอดจากเหตุร้าย ซึ่งเป็นกิจกรรมการบรรเทาสาธารณภัยและป้องกันการเกิดจลาจลในโรงเรียน โดยมี รศ.ดร.อิสรา ก้านจักร คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ผศ. ดร.ศราวุธ จักร์เป็ง รองคณบดีฝ่ายโรงเรียนสาธิตและพัฒนานวัตกรรมการศึกษา รักษาการแทนผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยขอนแก่น ร่วมสังเกตการณ์


“จากนั้นเป็นเหตุการณ์จำลองจริงขึ้นโดยมีคนร้ายพกอาวุธปืนและมีดพกเข้ามาภายในโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ผ่านประตูรั้วหน้าโรงเรียนเข้ามาตะโกนขึ้นเสียงดัง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่สามารถระงับเหตุได้ และเมื่อครูอาจารย์ทราบเหตุ จึงรีบส่งสัญญาณเตือนภายในโรงเรียนตามที่ซักซ้อมไว้ ขณะเดียวกันก็ได้โทรประสานไปยังตำรวจเพื่อแจ้งให้มาระงับเหตุ ส่วนภายในห้องเรียนครูประจำห้องพาเด็กนักเรียนหลบภัยในที่ปลอดภัย ทั้งภายในห้องเรียนและที่หลบภัยภายนอกตามที่ซักซ้อมไว้ ตามปฏิบัติการ หนี-ซ่อน-เงียบ จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธมีดแทงนักการภารโรงได้รับบาดเจ็บ สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษเข้าระงับเหตุโดยไม่มีเหตุร้ายแรงหรือสูญเสีย ขณะที่หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นเข้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังปฏิบัติการซักซ้อมได้เข้าสำรวจความเสียหาย รักษาพยาบาลและฟื้นฟูจิตใจครูนักเรียนและประชุมเพื่อประเมินผลการซุกซ้อมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น”


รศ.ดร.อิสรา ก้านจักร คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่นทั้ง 7 แห่งในความดูแลของคณะศึกษาศาสตร์ ได้มีการซักซ้อมแผนการป้องกันการเกิดจลาจลในโรงเรียนอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ระดับอนุบาล ประถมและมัธยมศึกษา การซักซ้อมแผนครั้งนี้เป็นไปตามขั้นตอนที่มีตั้งแต่การวิเคราะห์ ปฏิบัติการและประเมินเหตุ ในส่วนปฏิบัติการใช้หลักการหนี-ซ่อน-เงียบ

ด้าน พ.ต.ท.เมธี ศรีวันนา รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยหลังซ้อมแผนว่า การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามแผนที่ได้ซักซ้อมมาก่อนหน้านี้ ทั้งในส่วนของตำรวจ กู้ชีพ ครูและนักเรียน ทำให้ทุกส่วนทุกฝ่ายเข้าใจถึงยุทธวิธีในการป้องกันตัวเอง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ช่วยเหลือได้ ซึ่งการซ้อมแผนในครั้งนี้จะช่วยให้นักเรียนมีความรู้ในเรื่องการเอาตัว บทบาทหน้าที่ของตน ขณะที่เด็ก ๆ นักเรียนก็รู้วิธีหลบภัยลดความสูญเสียหากเกิดเหตุการขึ้นจริง