นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงเป็นพระมิ่งขวัญและเป็นที่เคารพยิ่งของพสกนิกรชาวไทย ทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้งมูลนิธิแพทย์อาสา สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 ด้วยทรงพบเห็นความยากลำบากของราษฎรในระหว่างที่เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมตำรวจตระเวนชายแดน ตามจังหวัดชายแดน ซึ่งในอดีตราษฎรที่เจ็บไข้ได้ป่วยจะไม่ได้รับการดูแลรักษาจากแพทย์เท่าที่ควร เนื่องจากการเดินทางยากลำบาก บางครั้งต้องรอจนอาการหนักจึงจะเดินทางมารักษาในโรงพยาบาลจังหวัด บางครั้งอาการก็หนักเกินกว่าจะรักษา หรือเป็นโรคที่ไม่ได้เจ็บป่วยมากมาย แต่กลับเรื้อรังจนต้องพิการ ทุพพลภาพ โดยพระองค์ท่านทรงเป็นองค์นายิกากิตติมศักดิ์





จังหวัดนครพนมได้รับพระราชทานให้เป็นจังหวัด พอ.สว. ลำดับที่ 6 เมื่อปี พ.ศ. 2512 เพื่อให้บริการประชาชน ซึ่งจะเป็นการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ร่วมกับ โครงการจังหวัดเคลื่อนที่ หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน ใน 12 อำเภอ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปเป็นประจำ รวมระยะเวลา 54 ปีแล้วที่ดำเนินการเพื่อสืบสานพระปณิธาน และในวันนี้ 21 กรกฎาคม 2566 จังหวัดนครพนม โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม จึงได้มีการบูรณาการทีมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข และ อสม. ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ที่โรงมหาชัยวิทยาคม ตำบลมหาชัย อำเภอปลาปาก เพื่อให้บริการประชาชน ในเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี 18 กรกฎาคม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และสดุดีเทิดพระเกียรติพระองค์ท่าน





โดยก่อนการให้บริการตรวจรักษาโรคเบื้องต้นและการแพทย์แผนไทย การทำทันตกรรม การฉีดวัคซีนโควิด – 19 การตรวจคัดกรองและให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต ทุกคนได้พร้อมใจกันประกอบพิธีถวายความเคารพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี จากนั้นกล่าวเทิดพระเกียรติฯ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจ ด้วยพระราชหฤทัยที่แน่วแน่ในการช่วยเหลือราษฎรให้พ้นทุกข์และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อความผาสุกของพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ทั้งยังก่อบังเกิดคุณประโยชน์ยิ่งใหญ่ไพศาลแก่ประเทศชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านการแพทย์ การสาธารณสุข รวมทั้งการศึกษา วรรณคดี การสังคมสงเคราะห์ สิ่งแวดล้อม และการยกระดับคุณภาพชีวิตของราษฎรในชนบทที่ห่างไกลความเจริญ โดยเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2543 องค์การวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหชาติหรือยูเนสโก ได้เฉลิมพระเกียรติยกย่องให้พระองค์ท่านทรงเป็นบุคคลสำคัญโลกด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ประยุกต์ การพัฒนามนุษย์ สังคมและสิ่งแวดล้อม ขณะที่ชาวไทยภูเขาก็ได้ถวายพระสมัญญานามพระองค์ท่านว่า “แม่ฟ้าหลวง” ซึ่งหมายถึงผู้เสด็จมาจากฟากฟ้าเพื่อมาปัดเป่าทุกข์แก่ราษฎร