จากกรณีที่คุณครูท่านหนึ่งจากโรงเรียนวาณิชย์นุกูล จังหวัดสุรินทร์ โพสต์ภาพนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ทั้ง 2 แผนการเรียน ได้เข้าร่วมงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ และสิรินธรวิชาการ ประจำปีการศึกษา 2566 ที่โรงเรียนสิรินธร จังหวัดสุรินทร์ อำเมือง จ.สุรินทร์โดยในภาพเป็นนักเรียนใส่ชุดลูกเสือ เล่นเกมปากระป๋องซึ่งมีภาพนักการเมืองชื่อดังอาทิ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา, พลเอกประวิตร วงศ์สุวรรณ, นายอนุทิน ชาญวีรกูล และ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวช ซึ่งภาพดังกล่าวได้สร้างกระแสวิจารณ์จนกระทั่งมีการลบภาพดังกล่าวออกไป




















อย่างไรก็ดี ได้มีการแคปภาพแอดมิจเพจของโรงเรียนวาณิชย์นุกูล จังหวัดสุรินทร์ ได้เข้ามาชี้แจงในภายหลังระบุว่า “เนื่องจากทางโรงเรียนพาเด็ก ๆ ไปร่วมกิจกรรมในงานวันสัปดาห์วันวิทยาศาสตร์ของโรงเรียน ไม่ได้มีเจตนาที่จะสร้างความเกลียดชังใด ๆ” โซเชียลซัดยับ “อดีตผู้สมัครส.ส.สุรินทร์ พรรคก้าวไกล” โพสต์ร่วมกิจกรรมปากระป๋องติดรูป “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” ปลูกฝังพฤติกรรมไม่เหมาะสมให้เยาวชน โดยมีอดีตผู้สมัคร สส.สุรินทร์ พรรคก้าวไกล โพสต์กิจกรรมเด็กนักเรียนประถมปากระป๋องติดรูป “บิ๊กตู่ บิ๊กป้อม เสี่ยหนู เสรีพิศุทธ์” เจอทัวร์ลงยับ ซัดไม่เหมาะปลูกฝังความเกลียดชังทางการเมืองให้เด็ก
จากนั้นผู้ใช้ทวิตเตอร์ เบญจมินทร์ ปันสน – Benjamin Punson ซึ่งเป็น สมาชิกพรรคก้าวไกล และอดีตผู้สมัครส.ส.สุรินทร์ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ว่า บูธเล่นเกมปากระป๋องในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติใน รร. สิรินธร จ.สุรินทร์ พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า งานดังกล่าวเป็นกิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติและสิรินธรวิชาการ 2566 รร.หยุดการเรียนการสอนชั่วคราว เปิดเป็นนิทรรศการของนักเรียนในกลุ่มวิชาต่าง ๆ จัดกิจกรรม มีสถาบันการศึกษาต่าง ๆ หน่วยงานต่าง ๆ ประชาชนเข้าไปเยี่ยมชมครับ พร้อมกันนี้ได้โพสต์ภาพกิจกรรมปากระป๋องโดยมีเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาร่วมกิจกรรมดังกล่าว จนทำให้โซเชียลที่วิพากษ์วิจารณ์ความไม่เหมาะสมว่าเป็นการสร้างความเกลียดชังทางการเมือง โดยใช้เด็กเป็นเครื่องมือ เพราะกระป๋องที่ปามีการติดภาพบุคคลสำคัญทางการเมืองอาทิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แล้วให้เด็กนักเรียนปาใส่
ล่าสุดวันที่ 12 สิงหาคม 2566 ทีมข่าวได้เดินทางไปที่โรงเรียนสิริธร จ.สุรินทร์ เพื่อขอพบนายสรวิศณ์ นพพงศ์สิริเดช ผู้อำนวยการโรงเรียน และรอง ผอ.โรงเรียน ทราบว่าไม่อยู่ทางสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสุรินทร์เรียกเข้าพบเรื่องดังกล่าว
ทีมข่าวพบกับนักเรียนหญิงโรงเรียนสิริธรที่ร่วมกิจกรรมและเป็นผู้จัดบู๊ทดังกล่าว เล่าว่า ตนได้ช่วยอาจารย์ฝ่ายสังคมศึกษาร่วมกันจัดบู๊ทกิจกรรมปากระป๋อง ซึ่งจะมีรูปภาพนักการเมืองหลากหลายรูปและหลายคนไม่ใช่มีแต่รูปภาพพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีอีกหลายๆท่านสับเปลี่ยนกันไป โดยตนและอาจารย์ก็ไม่ทราบว่าจะเป็นประเด็น ตอนนี้ตนรู้สึกสงสารอาจารย์มากไม่น่าเกิดเรื่องแบบนี้เลย
เด็กชายนักเรียนโรงเรียนสิริธรที่ร่วมกิจกรรมเล่าว่า วันนั้นตนได้ไปร่วมงานทั้งวัน แต่ไม่ได้เข้าร่วมปากระป๋องเพราะคนรอต่อคิวเล่นเกมเยอะมาก ตนได้เห็นว่ามีเพื่อนนักเรียนเต็มหน้าบู๊ช ซึ่งจะมีเพื่อน ๆ นักเรียนได้มาปากระป๋องกันแล้วแต่ใครจะชอบใคร แต่ตนไม่ทราบเลยว่าจะเอากิจกรรมนี้มาเป็นประเด็น ซึ่งตนสงสารอาจารย์และผู้อำนวยการมากและไม่อยากโยงให้เกี่ยวข้องกับการเมือง
ด้านผู้ปกครองเด็กคนหนึ่งที่เรียนอยู่โรงเรียนดังกล่าว เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ในความคิดส่วนตัวของตนนั้นตั้งไว้ 2 ประเด็น เราควรเปิดโอกาสให้กับเด็กนักเรียนเพราะเด็กส่วนมากจะอยู่กับโรงเรียนมากกว่าอยู่กับผู้ปกครอง และต้องให้เด็กกล้าแสดงออก ส่วนกิจกรรมปากระป๋องนั้นมีรูปภาพนักการเมืองหลายคนแทบจะทุกคน พร้อมทั้งนักการเมืองก็เป็นบุคคลสาธารณะที่ต้องให้เขาวิจารย์ได้ เด็ก ๆที่ปากระป๋องอาจชอบใครก็ปาคนนั้น วอนอย่าโยงไปเรื่องการเมือง
นายเบญจมินทร์ ปันสน เป็นอดีตผู้สมัคร สส. พรรคก้าวไกล จังหวังสุรินทร์ เขต 1 กล่าวว่า วันนั้นเป็นวันที่ 9 สิงหาคม 2566 เป็นงานเปิดกิจกรรมงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ตนก็ไปร่วมเยี่ยมชมของตนเองไม่ได้มีใครเชิญ ซึ่งตนก็เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนอยู่ด้วย และตนก็ไปชมตามบู๊ทต่าง ๆ ซึ่งบู๊ทที่เป็นประเด็นเป็นบู๊ทแรกของงาน ตนก็ได้เข้าไปดูด้วย ถึงตนจะอยู่พรรคก้าวไกลเองแจ้งตรงนี้ว่าไม่ได้เป็นคนจัดและไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบู๊ทใดๆเลยในกิจกรรมครั้งนี้ รวมถึงการไปในวันที่ 9 สิงหาคม ที่ผ่านมา ตนไปในฐานะคนทั่วๆไปเยี่ยมชมนิทัศน์การของโรงเรียนเท่านั้น ซึ่งงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาตินั้นแบ่งออกหลายๆกลุ่มสาระการเรียนรู้ อย่างบู๊ทที่เป็นประเด็นอยู่เป็นหนึ่งของวิชาสังคมศึกษามีทั้งกิจกรรมเล่นเกมปากระป๋องและก็มีกิจกรรมตอบคำถามความรู้รอบตัวเกี่ยวกับเรื่องของสังคม การเมืองประเทศไทย ตนมองหลายๆบู๊ทมีความสนใจมากและเป็นห่วงมาก ซึ่งบู๊ทนี้อาจจะจัดกิจกรรมที่คลายเครียดโดยรู้สึกว่าการเมืองประเทศไทยอยู่ใกล้กับตัวเขามากกว่าเพราะบู๊ทนี้จะเป็นวิชาการมากกว่าก็จะสอบว่าประธานสภาชื่ออะไร นักการเมืองคนนี้ชื่ออะไร ซึ่งจะเป็นวิชาความรู้รอบตัวมากกว่า จริงๆแล้วกิจกรรมปากระป๋องไม่ได้มีแค่ 2 พรรคการเมืองหรือนักการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งมีแทบทุกพรรค แม้ว่าของพรรคก้าวไกลเองก็มี โดยผู้เล่นจะเลือกปาใคร ถ้าถามว่าสร้างความเกลียดชังไหมอันนี้ตนคิดว่าแล้วแต่มุมมอง ซึ่งบู๊ทไม่ได้ระบุว่าต้องปาด้วยความเกลียดชังหรือปาด้วยความรัก บางทีเขาอาจจะปาด้วยความรักก็ได้ ส่วนของโรงเรียนตนคิดว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับโรงเรียนกับนักเรียน ซึ่งคิดว่าโรงเรียนเป็นพื้นที่เปิดและต้องขอขอบคุณโรงเรียนด้วยที่เป็นพื้นที่ให้นักเรียนได้จัดบู๊ทกิจกรรมและแสดงศักยภาพของตัวเองออกมา เรื่องนี้นักการเมืองทุกคนต้องเข้าใจอยู่แล้วว่าตัวเองเป็นบุคคลสาธารณะสามารถย่อมพูดถึงได้เป็นเรื่องปกติอีกด้วย