จากกรณีเช้ามืดวันที่ 7 ตุลาคม 2566 กลุ่มฮามาส บุกโจมตีอิสราเอล ทั้งบนอากาศและภาคพื้นดิน มีการบุกเข้ามายิง ทำให้มีพลเมืองผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตหลายร้อยราย รวมทั้งแรงงานไทยที่ไปขุดทองในอิสราเอล ซึ่งในจำนวน 7 คนเป็นแรงงานชาวอุดรธานี ชื่อนายศักดิ์สิทธิ์ จำปาสิม ราษฎรชาวบ้านชาวบ้าน อ.บ้านผือ







ต่อมาในเวลา 11.30 น.วันที่ 11 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 152 หมู่ 8 บ้านโคกกลาง ต.ข้าวสาร อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านนายศักดิ์สิทธิ์ จำปาสิม อายุ 38 ปี แรงงานไทยที่ถูกระบุว่าโดนกลุ่มฮามาสบุกเข้ามายิงและขว้างระเบิดเผาที่พัก ทำให้เสียชีวิตและถูกเผาเหลือแต่โครงกระดูกภายในที่พัก โดยได้พบกับนางถนอม จำปาสิม อายุ 55 ปี แม่นายศักดิ์สิทธิ์ นั่งอยู่หน้าบ้าน และได้มีญาติและเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวมาให้กำลังใจกันจำนวนมาก
นางถนอม เปิดเผยว่า ตนมีลูก 2 คน นายศักดิ์สิทธิ์เป็นลูกคนโต แต่งงานกับนางอรวรรณ เวียงสิมมา มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ก่อนหน้านี้ลูกชายและลูกสะใภ้จะไปขายลูกชิ้นตามตลาดนัด ซึ่งลูกต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูคนในครอบครัวรวม 8 คน ต่อมาลูกชายได้สมัครไปทำงานประเทศอิสราเอล ทำงานในสวนส้มในฉชวนกาซา ได้เงินเดือน 4-5 หมื่นบาท ไปทำได้ 4 ปีกว่าแล้ว เดือนมิถุนายน 2567 จะครบสัญญา 5 ปี แต่ว่าจะไม่เดินทางกลับ จะต่อสัญญาอีก 3 เดือนเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ให้แม่ 2 แสน เสร็จแล้วถึงจะเดินทางกลับมา ซึ่งตนจะทำโหย๋ยหมูที่ลูกชอบให้กิน
นางถนอมฯ กล่าวต่อไปว่าลูกชายจะวีดีโอคอลมาหาภรรยา แม่ และหลานประจำ ครั้งสุดท้ายที่ตนได้คุยกับลูกชายคือวันที่ 3 ตุลาคม แต่ลูกชายจะคุยกับหลานชายช่วง 23.00 น.ทุกคืน และเมื่อเช้าวันที่ 7 ตุลาคม ก็ได้ทราบข่าวว่า เกิดสงครามระหว่างปาเลสไตน์บุกอิสราเอล ลูกสะใภ้ยังติดต่อกับลูกชายได้ และหลานยังแชทไลน์กับลุงได้ ตนก็ภาวนาให้ลูกชายปลอดภัย กระทั่งบ่ายวันที่ 7 ตุลาคม ก็ขาดการติดต่อ วันอาทิตย์เพื่อนลูกชายชื่อกรวิทย์ แชทไลน์มาบอกว่าให้ทำใจ เพราะลูกชายโดนยิงและปาระเบิดใส่ที่พักจนไฟไหม้ เหลือแต่โครงกระดูก ซึ่งตน อยากจะให้มีปาฏิหาริย์ ไม่อยากให้เป็นศพลูก
ส่วนนายชิษณุพงศ์ จำปาสิม อายุ 16 ปี หลานชายนายศักดิ์สิทธิ์ (ลูกน้องสาว) กล่าวว่า ตนเรียนชั้น ม.3 นายศักดิ์สิทธิ์ เป็นลุงที่ตนรักเหมือนพ่อและเลี้ยงตนมาตั้งแต่เกิด เพราะพ่อทิ้งตนกับแม่ไปไม่รับผิดชอบ มีแต่ลุงเป็นคนหาเงินเลี้ยงดูและส่งให้เรียนหนังสือ จึงรักตนเหมือนลูกชายโดยบอกให้ตนเรียนหนังสือลุงจะส่งเสียเอง ตนก็จะเรียกลุงว่าพ่อ พ่อจะวีดีโอคอลมาหาตนเวลา 23.00 น.ทุกคืน จะคุยเรื่องไก่ชน เพราะตนและพ่อจะชอบไก่ชนทั้งคู่ พ่อจะซื้อไก่มาให้ตนเลี้ยงไว้รอ เมื่อกลับจากอิสราเอลแล้ว จะทำกิจการเปิดฟาร์มไก่ชนเล็กๆ ด้วยกัน
พ่อสอบถามว่าปิดเทอมไปรับจ้างไปทำงานอะไร ซึ่งก็บอกว่าไปรับจ้างยกกระสอบหัวอาหารสัตว์ ให้ตนเก็บเงินเอาไว้ ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น
“หลังจากวันที่ 7 ตุลาคม ตนรอให้พ่อทักมา แต่พ่อก็ไม่วีดีโอคลอมาหาตนอีกเลยตนพยายามติดต่อเพื่อนพ่อ ก็บอกว่าให้ทำใจไว้เลย จนทราบว่าพ่อโดนเผาในห้องพักจนเหลือแต่กระดูก ซึ่งตนรู้สึกเสียใจมาก จากนั้นเพื่อนพ่อก็ส่งภาพที่พักพ่อโดนเผา และห้องพ่อโดนเผาและห่อศพ คาดว่าจะเป็นศพพ่อมาให้ดู”
ต่อมาญาติได้วีดีโอคอลกับนายกรวิทย์ แก้วเกิด อายุ 36 ปี ชาวนครราชสีมา ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานนายศักดิ์สิทธิ์ นายกรวิทย์ฯ ได้เล่าถึงช่วงนาทีหนีตายว่า หลังจากกลุ่มฮามาสบุกเข้ามารอบแรก ตนได้ชวนนายศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งหลบอยู่ในห้องหมายเลข 5 หนีออกจากที่พัก เพราะที่พักไม่น่าจะป้องกันระเบิดได้ แต่นายศักดิ์สิทธิ์ไม่ไป บอกว่าอยู่ในที่พักปลอดภัยกว่า แต่ตนออกไปหลบอยู่หลุมหลบภัยข้างนอก กลุ่มก่อการร้ายกลับมาครั้งที่สอง ได้กราดยิงคนงานแล้วโยนระเบิดใส่ที่พักทำให้ไฟไหม้ที่พัก จากนั้นทหารอิสราเอลก็มาไล่ผู้ก่อการร้ายออกไป พอเพลิงสงบ ก็เข้าไปเคลียร์พื้นที่ และพาตนไปดูว่าแต่ละห้องมีใครอยู่ ชื่ออะไร จึงเดินไปดูห้องหมายเลข 5 ก็พบโครงกระดูก 5 คน เป็นคนไทย ส่วนอีก 10 ศพเป็นชาวเนปาลโดนยิงไม่โดนเผา และอีก 4 คนถูกจับไปเป็นตัวประกัน ห้องหมาย 5 เป็นห้องนายศักดิ์สิทธิ์ เชื่อและมั่นใจว่าเสียชีวิตแล้ว