แรงงานบุรีรัมย์ที่หนีภัยสงครามจากอิสราเอล ทยอยยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือ สิทธิประโยชน์ และเงินจากองทุนสงเคราะห์จากองทุนฯ แล้ว 5 รายจากที่กลับถึงไทยแล้ว 15 คน บางคนโอดยังแบกหนี้ที่กู้มาสร้างบ้าน ซื้อรถ ส่งลูกเรียนเฉียดล้านแต่ต้องกลับเพื่อเอาชีวิตรอด วอนรัฐช่วยจัดหาและส่งไปทำงานประเทศที่ปลอดภัย เพราะถ้าทำงานในไทยคงไม่พอปลดหนี้





วันที่ 18 ต.ค. 2566 แรงงานจากหลายอำเภอ ในจังหวัดบุรีรัมย์ ที่หนีภัยสงครามกลับจากอิสราเอล ได้ทยอยเข้ายื่นคำร้องที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อขอรับเงินช่วยเหลือและสิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมถึงเงินสงเคราะห์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ โดยเบื้องต้นมีแรงงานเข้ามายื่นคำร้องแล้ว 5 ราย จากที่ทางภาครัฐช่วยเหลือให้เดินทางกลับภูมิลำเนาในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์แล้วขณะนี้ 15 ราย คาดว่าที่เหลืออาจจะอยู่ระหว่างพักผ่อนให้หายเหนื่อยและจัดหาเอกสารเพื่อมายื่นคำร้องในภายหลัง ทั้งนี้แรงงานที่มายื่นคำร้องนอกจากจะต้องการเงินช่วยเหลือแล้ว ยังอยากให้ทางภาครัฐช่วยจัดหาตำแหน่งงานว่างและส่งไปทำงานยังประเทศที่ปลอดภัยด้วย เพราะหลายคนยังต้องแบกรับภาระหนี้สินอีกหลายแสน เพราะหากทำงานในไทยค่าแรงคงไม่เพียงพอจะปลดหนี้ได้ ก็จะกลายเป็นปัญหาในครอบครัว
ด้านนางนิธิอร บุญญานุสิทธิ์ จัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ ก็ได้อธิบายระเบียบหลักเกณฑ์และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่แรงงานควรจะได้รับกรณีที่จำเป็ดต้องหนีภัยสงครามกลับภูมิลำเนา ซึ่งนอกจากจะมีเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลไทยตามสิทธิ์ประโยชน์ต่างๆ แล้ว ก็ยังจะมีเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลอิสราเอลด้วย ส่วนหากแรงงานรายไหนที่จ่ายค่าเครื่องบินกลับมาเองรัฐบาลก็มีนโยบายจะจ่ายคืนให้ และหากมีความประสงค์จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ทางกรมการจัดหางานก็พร้อมจัดหาตำแหน่งงานในต่างประเทศให้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับความสมัครและคุณสมบัติของแรงงานแต่ละคนว่าจะสามารถทำงานประเภทใดหรือประเทศไหนได้บ้าง ส่วนคนที่ไม่ต้องการกลับไปทำงานต่างประเทศแล้วก็จะจัดหาตำแหน่งงานว่างในไทยให้ จากข้อมูลจังหวัดบุรีรัมย์มีแรงงานเดินทางไปทำงานอิสราเอล 1,189 คน ขณะนี้ได้รับการช่วยเหลือเดินทางกลับมาแล้ว 15 คน
ด้านนายสะพานทอง ซ่อนกลิ่น อายุ 44 ปี แรงงานชาวตำบลลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ บอกว่า ดีใจที่ได้กลับมาเจอครอบครัวอย่างปลอดภัย แต่สิ่งที่อยากให้รัฐช่วยเหลือนอกจากเงินหรือสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่จะได้รับแล้ว ก็อยากให้ช่วยจัดหาตำแหน่งงานในต่างประเทศและให้รัฐช่วยจัดส่งไปทำงานในประเทศที่ปลอดภัย เพราะถึงแม้จะทำงานที่อิสราเอลมา 5 ปี 3 เดือน ก็ยังต้องแบกรับภาระหนี้สินที่กู้มาสร้างบ้าน ซื้อรถ และส่งลูกเรียนอีกประมาณ 8 แสนบาท เพราะเชื่อว่าหากได้ไปทำงานต่างประเทศจะสามารถปลดหนี้ที่เหลือได้โดยไม่เป็นภาระให้กับครอบครัว แต่หากทำงานในไทยซึ่งมีค่าแรงที่ต่ำกว่าก็ไม่รู้จะปลดหนี้ได้หรือไม่ จึงอยากให้รัฐช่วยเหลือด้วย