วันที่ 22 ต.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่หอประชุมอำเภอเมืองหนองบัวลำภู นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.กระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผลการดำเนินงานตามมาตรการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้เกษตรกรรายย่อยตามนโยบายรัฐบาล โดยมี นายสุวิทย์ จันทร์หวร ผวจ.หนองบัวลำภู ส.ส.พรรคเพื่อไทย หนองบัวลำภู เขต 1 และ เขต 3 นายอำเภอเมืองหนองบัวลำภู พร้อมผู้บริหารของหน่วยงานสังกัดกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ ผู้บริหารของธนาคาร ธ.ก.ส.ในระดับจังหวัด อำเภอและประชาชนในพื้นที่อำเภอเมืองหนองบัวลำภู ที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมพักชำระหนี้ จำนวน 6,268 คน ร่วมให้การต้อนรับ





โดย นายจุลพันธ์ฯรมช.กระทรวงการคลัง ยังได้กล่าวบนเวทีกับชาวบ้านถึงเรื่องเงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งเป็นอีกหนึ่งนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทย ที่จะช่วยให้เกษตรกรได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน ถ้าไม่มีเงินก็ไม่ทุนซื้อ ปุ๋ย ยา เมล็ดพันธุ์ ในการที่จะทำการเกษตร หากครอบครัวมี 3 คน ก็จะมีรายได้เข้ามา 30,000 บาท มี 5 คน ก็จะมีรายได้เข้ามา 50,000 บาท จะทำให้มีทุนทำการเกษตร หากไม่มีทุนก็ทำการเกษตรไม่ได้ ทำให้เกษตรกรที่อยู่ในห้องประชุมได้ปรบมือกันเกรียวกราว พร้อมย้ำกับเกษตรกรว่า ให้รอดู 4 ปี ข้างหน้าชีวิตของท่านจะดีขึ้นได้อย่างไร ภายใต้รัฐบาลของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เราจะทำให้ดีที่สุด และได้ขอร้องว่าอย่าเดินหน้าไปหาหนี้นอกระบบ แม้ว่าพักหนี้เกษตรกร ให้เข้าหาธนาคารของรัฐ เช่น ธ.ก.ส. ก็พร้อมทำงานให้มาหาหน่วยงานรัฐ
จากนั้นจึงได้มอบผ้าห่มกันหนาวให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมเยี่ยมชมการลงทะเบียนพักชำระหนี้ของเกษตรกร จากนั้น ได้เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์สิ้นค้าพื้นเมืองหนองบัวลำภู โดยเฉพาะผ้าพื้นเมืองซึ่งถือว่าเป็นสินค้าที่ชาวหนองบัวลำภู ได้มีการผลิตกันในทุกชุมชนและสร้างร้ายได้ สร้างชื่อเสียงให้กับทางจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นอย่างดี พร้อมทั้งชื่นชมกับผลิตภัณฑ์ของ กลุ่มผลิตภัณฑ์สินค้าพื้นเมืองและสินค้าโอท็อป และเยี่ยมชม การลงทะเบียนของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้ ที่เปิดให้เกษตรกรได้ลงทะเบียนไปพร้อมกัน และในเวลาต่อมมา นายจุลพันธ์ฯรมช.กระทรวงการคลัง ได้เดินทางไปที่ หอประชุมโรงเรียนคำแสนวิทยาสรรค์ อ.นากลาง และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านอาบช้าง ต.กุดดินจี่ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู พร้อมนายอำเภอนากลาง และ คณะเยี่ยมให้การต้อนรับพร้อมเยี่ยมชมกิจกรรมฟื้นฟูศักยภาพลูกหนี้
รมช.ว่าการกระทรวงการคลัง ยังกล่าวว่า การมาเยี่ยมพี่น้องเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้ของพี่น้องเกษตรกร ดีใจที่ได้มาจังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งจังหวัดหนองบัวลำภู ยังมีพี่น้องเกษตรกรที่ยังต้องการความช่วยเหลืออยู่มาก ซึ่งทางนโยบายรัฐในโครงการพักชำระหนี้ของเกษตรกรนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการที่จะให้พี่น้องเกษตรกรที่จะต่อชีวิตยืดภาระของตัวเองออกไปได้อีกซึ่งแน่นอนว่า รัฐบาลของคุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เรามีนโยบายอื่นๆ อีกมากมายที่จะเข้ามาเพื่อที่จะเติมเต็มให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งเรื่องของการเพิ่มรายได้ ของพี่น้องเกษตรกร เช่น การเพิ่มผลผลิตต่อไร่ การนำสินค้าทางการเกษตรไปขาย สิ่งต่างๆเหล่านี้จะยืนยันได้ว่า ในการพักหนี้ครั้งนี้จะไม่เหมือนการพักหนี้ครั้งก่อนๆ ที่ผ่านมา และจะทำให้ชีวิตของพี่น้องเกษตรกรดีขึ้นแน่นอน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงเรื่องของ เงินดิจิทัล ตามที่เป็นนโยบายที่ได้ให้สัญญาไว้กับประชาชนว่า คนละ 10,000 บาท นั้นกล่าวว่า ตอนนี้อยู่ในส่วนของคณะกรรมการที่กำลังศึกษาอยู่ สัปดาห์หน้าก็จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการ ซึ่งหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายไปแต่ละส่วนจะนำเอาข้อเสนอในแต่ละประเด็นกลับมาให้ อนุกรรมการพิจารณาและส่งต่อไปยังคณะกรรมการนโยบายต่อไป