วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมดอกจาน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ ตำบลโนนหนามแท่ง อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย ผู้แทนสภาวิชาชีพ ร่วมเวทีชี้แจงแนวทางการขับเคลื่อนเพื่อยกระดับบัตร 30 บาท รักษาทุกโรค ภายใต้โครงการ“บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” ระยะที่ 2 กับภาคเอกชนจังหวัดอำนาจเจริญที่เปิดคลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ร้านขายยา คลินิกทันตกรรม คลินิกเวชกรรม เทคนิคการแพทย์ คลินิกแพทย์แผนไทย และคลินิกกายภาพบำบัด พร้อมกันนี้ สปสช.ให้บริการเชิงรุกเปิดรับสมัครขึ้นทะเบียนหน่วยบริการนวัตกรรมสหวิชาชีพ 7 สาขา โดยมี นพ.ปฐมพงศ์ ปรุโปร่ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ คณะผู้บริหารสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญให้การต้อนรับ
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ร่วมกับ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ และสภาวิชาชีพ จัดประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานแก่สถานพยาบาลเอกชนและอำนวยความสะดวกการสมัครเข้าร่วมจัดบริการ พร้อมรองรับการยกระดับบัตร 30 บาท รักษาทุกโรคภายใต้โครงการ“บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” ระยะที่ 2 ซึ่งจังหวัดอำนาจเจริญจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 มีนาคม 2567 ซึ่งมีหน่วยบริการนวัตกรรมใหม่ คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ 23 แห่ง ร้านยา 8 แห่ง คลินิกทันตกรรม 8 แห่ง คลินิกเวชกรรม 6 แห่ง เทคนิคการแพทย์ 2 แห่ง คลินิกแพทย์แผนไทย 5 แห่ง และคลินิกกายภาพบำบัด 1 แห่ง เข้าร่วมเวทีประชุมชี้แจงในครั้งนี้
การจัดประชุมในครั้งนี้เพื่อเชิญชวนสถานพยาบาลเอกชนประเภทต่างๆ รวมถึงร้านยาในพื้นที่จังหวัดอำนาจเจริญ เข้ามาร่วมเป็นหน่วยบริการในระบบ เพื่อดูแลประชาชนและช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ สามารถเข้าถึงบริการได้สะดวกมากยิ่งขึ้น รวมถึงลดความแออัดภายในโรงพยาบาล ขั้นตอนการให้บริการและเอกสารที่เป็นกระดาษ ทำให้สามารถเบิกจ่ายค่ารักษาได้รวดเร็ว เนื่องจากประชาชนใช้เพียงแค่บัตรประชาชนใบเดียวก็สามารถรับบริการได้เลย ไม่ว่าจะมาจากจังหวัดใด เพราะมีการเชื่อมโยงข้อมูลกันหมดแล้ว อีกทั้งยังเพิ่มทางเลือกในการยืนยันตัวตนหลังรับบริการมากขึ้นอีกด้วย ตลอดจนการเพิ่มช่องทางในการรับยา โดยมีทั้งการรับที่โรงพยาบาล รับยาที่ร้านยาใกล้บ้าน และให้ไรเดอร์ไปส่งถึงบ้าน
ทพ.อรรถพร กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลเดินหน้านโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว โดยเปิดให้ประชาชนใช้บัตรประชาชนเข้ารับการรักษาได้ในสถานพยาบาลทุกเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งได้เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. 2567 ใน 4 จังหวัดนำร่อง ประกอบด้วย แพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และนราธิวาส และขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายสู่ระยะที่ 2 อีก 8 จังหวัดซึ่งจะเริ่มในเดือนมีนาคม 2567 นี้ ได้แก่ นครราชสีมา นครสวรรค์ พังงา เพชรบูรณ์ สระแก้ว สิงห์บุรี หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ สปสช.ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลสิทธิบัตรทอง ได้เปิดรับสมัครหน่วยบริการนวัตกรรมใหม่ เพื่อให้มีหน่วยบริการที่ครอบคลุมในทุกพื้นที่ ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถเข้ารับบริการใกล้บ้านได้อย่างสะดวก ลดความแออัดในโรงพยาบาล ได้แก่



- ร้านยาชุมชนอบอุ่น ดูแลเจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการ บริการให้คำปรึกษาโดยเภสัชกรและรับยา
- คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น บริการทำแผล ล้างตา ล้างจมูก เปลี่ยนสายให้อาหาร ฉีดยาตามแผนการรักษาของแพทย์ ตรวจรักษาโรคเบื้องต้น 32 กลุ่มอาการ เช่น เป็นไข้ตัวร้อน ปวดศีรษะ ปวดท้อง เป็นต้น
- คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น บริการตรวจแล็บ 22 รายการตามใบสั่งตรวจจากแพทย์
- คลินิกกายภาพบำบัดชุมชนอบอุ่น บริการฟื้นฟูผู้ป่วย 4 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคหลอดเลือดสมอง สมองได้รับบาดเจ็บ กระดูกสะโพกหัก โดย รพ.ที่ให้การรักษาส่งตัวผู้ป่วยไปรับบริการต่อที่คลินิกฯ
- คลินิกทันตกรรมชุมชนอบอุ่น บริการอุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน เคลือบหลุมร่องฟัน เคลือบฟูลออไรด์
- คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น ให้บริการตรวจรักษาโรคแบบผู้ป่วยนอก
และ 7.คลินิกแพทย์แผืนไทยชุมชนอบอุ่น บริการนวด ประคบ อบสมุนไพร เพื่อการรักษา