ที่ตลาดบิ๊กซัน อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และคณะ ได้เดินทางมาร่วมเวที “เวทีรับฟังปัญหาที่ดิน จ.อุดรธานี” โดยมีชาวบ้านจาก อ.หนองวัวซอ อ.เพ็ญ และ อ.สร้างคอม รวมแล้วประมาณ 300 คน มาร่วมรับฟังในเวที เมื่อนายพิธาฯ เดินทางมาถึงโดยรถตู้ ได้รับเสียงกรี้ดกร้าดจากแฟนคลับและชาวบ้านที่มารอเจอนายพิธาฯ บางส่วนนำผ้าขาวม้ามาผูกเอว เพื่อให้การต้อนรับ ก่อนถูกห้อมล้อมด้วยแฟนคลับเพื่อขอถ่ายรูป หลังจากนั้นได้ขอตัวไปร่วมรับฟังประเด็นปัญหา และร่วมให้ข้อมูลในเวทีพูดคุย






ประเด็นพูดคุยเริ่มจากคณะทำงานของกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวที่มาที่ไปของเวทีนี้ และนายเปลี่ยน สีนากรุง อายุ 62 ปี อดีตรองนายก ทต.หนองวัวซอ แกนนำคัดค้านโครงการ “หนองวัวซอโมเดล” ได้กล่าวที่มาที่ไปของพื้นที่ทั้งหมด และกล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะนายสุทิน คลังแสง รมต.กลาโหม ที่ยังระบุว่าเป็นการทำงานที่ไม่จริงใจ ผิดวัตถุประสงค์ ประชาชนยังคงเดือดร้อนจากโครงการนี้ ทำไมต้องให้ชาวบ้านเช่าพื้นที่ทำกินของตนเอง ต่อด้วยนายกรุณพล เทียนสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคก้าวไกล พูดสนับสนับแนวคิดของแกนนำ รวมถึงการทำงานของพรรคที่มีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดิน ขอให้ชาวบ้านที่มาร่วมงาน ได้พูดถึงปัญหาในพื้นที่ เพื่อจะได้เป็นข้อมูลในการปรับใช้ในคณะกรรมาธิการฯ
หลังจากนั้นตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ ต.หินโงม อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี ได้ให้ข้อมูลในเวทีว่า พื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยหลวงตอนล่าง มีชาวบ้านกว่า 500 ครัวเรือนได้รับผลกระทบ ส่วนใหญ่มีพื้นที่ทำกินแต่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ โดยทำกินมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย หลายชั่วอายุคน บางรายมีเอกสารสิทธิ์ นส.3 มีการสวมสิทธิ์ที่ดินเกิดขึ้นหลายราย คนที่มีชื่อกลับเป็นลูกหลานของนักการเมืองท้องถิ่น หรือญาติพี่น้องของผู้นำชุมชน จนหลายคนเรียก นส.บิน มีการเข้ามาบอกชาวบ้านว่าจะได้รับเงินทดแทนในโครงการโขงชีมูล แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีการปรับปรุงแก้ไข อยากให้คณะทำงานของก้าวไกลเข้ามาช่วยเหลือด้วย ส่วนพื้นที่ อ.เพ็ญ ตัวแทนได้พูดถึงปัญหาพื้นที่ นสล. ที่มีแนวเขตไม่ชัดเจน ในเขต ต.บ้านธาตุ พื้นที่ประมาณ 1,001 ไร่ ชาวบ้านเดือดนร้อนกว่า 180 ครัวเรือน ซึ่งยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเช่นกัน
ต่อมา นายอภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคก้าวไกล ประธานคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ได้กล่าวเสริมบางช่วงว่า ปัญหาที่ที่ดินทำกินของประชาชนมีทุกพื้นที่ในประเทศไทย การจะพัฒนาประเทศ เรื่องสิทธิ์ที่ดินทำกินของชาวบ้าน ถือเป็นเรื่องพื้นฐานหลักของชาวบ้านที่สมควรได้รับ เป็นการแก้ไขปัญหาตามที่นายพิธาฯ เคยกล่าวเอาไว้ในนิยามการแก้ไขติดกระดุม 5 เม็ด หากผิดที่กระดุมเม็ดแรก ทุกอย่างก็จะผิดและบิดเบี้ยวไปหมด ซึ่งเรื่องนี้ทางพรรคเองอยากจะได้ชาวบ้านได้เข้าใจ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหา
นายพิธาฯ กล่าวในที่ประชุมว่า ที่ดินส่วนใหญ่ในประเทศรัฐถือครองอยู่ 60 % ประชาชน 40 % ถ้าอยากให้ประเทศพัฒนา ต้องเริ่มจากการปรับปรุงเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินก่อน ในทางกลับกันชาวบ้านต้องมีสิทธิ์ถือครองมากกว่ารัฐ เรื่องที่ดินเป็นความมั่นคงของพี่น้องประชาชน เป็นการลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาในอีกหลายมิติ ยกตัวอย่าง หากชาวบ้านมั่นคงในเรื่องที่ดิน มีสิทธิ์ชัดเจนในที่ดิน ก็สามารถนำไปเป็นหลักค้ำประกันในการไปก็ยืมมาลงทุนในเรือกสวนไร่นาหรือธุรกิจท้องถิ่น เมื่อมั่นคงแล้ว ก็จะสร้างงานสร้างรายได้ ไม่ต้องไปกู้ยืมนอกระบบ ไม่ต้องจากบ้านเกิดไปทำงานในเมืองหรือต่างประเทศ ไม่ต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อไปขายแรงงาน
“อย่างในพื้นที่ใน อ.หนองวัวซอ ผมมองว่าพื้นที่ทำกินชาวบ้าน ไปทำซ้อนพื้นที่ทหาร เมื่อได้ได้ใช้งานหรือเป็นป่าเสื่อมโทรม ก็ควรจะต้องมาพิสูจน์สิทธิ์ และออกเอกสารสิทธิ์ให้ถูกต้องเป็นธรรม การจะให้ชาวบ้านเช่าพื้นที่ ผมมองว่าไม่ถือเป็นสิทธิ์ ไม่มีความมั่นคงในชีวิต เรื่องนี้คณะทำงานจะได้รวบรวมเพื่อผลักดันต่อไป ในระยะยาวหากเป็นไปได้ อยากให้ไปสำรวจพื้นที่ของหน่วยงานราชการทั้งประเทศ พื้นที่ไหนที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ต้องเอามาเขย่าและไล่เรียงกันใหม่ อย่างที่บอกว่าหากจะพัฒนาประเทศ ต้องเริ่มจากให้ความมั่นคงชาวบ้านเรื่องที่ดิน เรื่องสิทธิ์ทำกิน เป็นเรื่องที่เราจะผลักดันและต้องการให้สำเร็จ”
ก่อนจบบนเวทีฯ แล้วนายพิธาฯ ได้กล่าวสั้นๆ อีกว่า หากอยากเห็นการพัฒนาประเทศ อยากผลักดันไปด้วยกัน ขอให้ประชาชนช่วยกันเริ่มจากสนามเลือกตั้ง อบจ. ปลายปีนี้จะหมดวาระการทำงานของชุดปัจจุบัน อยากให้ช่วยพิจารณาผู้สมัครจากคณะก้าวหน้า ที่ผ่านมาในสนามเลือกตั้งใหญ่เราพิสูจน์แล้วว่าเราทำได้ แต่ก็ต้องสู้กันไปตามระบบการเมือง เริ่มกันใหม่จากสนาม อบจ. และขอให้ไว้ใจในสนามใหญ่อีกครั้ง วันนี้ช่วงเย็นก็จะมีการเปิดตัวผู้สมัครชิงนายก อบจ.อุดธานี ขอฝากทนายแห้ว นายคณิศร ขุริรัง อดีต รอง นายก อบจ.อุดรธานี นักการเมืองท้องถิ่นฝีมือดีเข้ามาสานการทำงานและรับใช้พี่น้อง หลังจบเวทีนายพิธาฯ และคณะ ได้พบปะพูดคุยกับชาวบ้านที่มาร่วมงานอย่างใกล้ชิด และร่วมถ่ายรูปกันอย่างคึกคัก