วันที่ 10 เมษายน 2567 เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ลานจอดรถ สถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ พล.ต.ต.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ร่วมพิธีปล่อยแถวกำลังพลในการอำนวยความสะดวกการจราจร ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและการออกตรวจสถานบริการ/สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 ซึ่งจะทำการระดมกวาดล้างอาชญากรรมและยาเสพติด ในระหว่างวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567 รวมระยะเวลา 7 วัน ซึ่งในห้วงเวลาดังกล่าว ประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา และในพื้นที่จะมีการจัดงานรื่นเริง การแสดงแสง สี เสียง หรือจุดพลุ ดอกไม้เพลิง จนอาจทำให้เกิดปัญหาอาชญากรรม หรือทำให้การจราจรติดขัดบริเวณพื้นที่งานดังกล่าว จึงได้มีการกำหนดแนวทางการปฏิบัติ ในด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม และการเฝ้าระวังผู้ฉวยโอกาสกระทำผิด ในห้วงวันหยุดยาววันสงกรานต์ประจำปี 2567 และการอำนวยความสะดวกการจราจร













ในการระดมกวาดล้างอาชญากรรมในครั้งนี้ มีเป้าหมายหลัก คือ ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทุกประเภทและปัญหายาเสพติด ซึ่งอาจจะมีบุคคลหรือกลุ่มบุคคล ฉวยโอกาสกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ชีวิต ร่างกาย และเพศ ความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน อาวุธสงคราม และวัตถุระเบิดรวมทั้งความผิดอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามสถานีขนส่ง สถานที่พักผู้โดยสารแหล่งท่องเที่ยวหรือสถานที่ที่มีการจัดงานหรือจัดกิจกรรมรื่นเริงต่าง ๆ อีกส่วนหนึ่งคือ เรื่องการรณรงค์เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจราจร ซึ่งอาจก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงการตรวจค้นบุคคลหรือยานพาหนะ เพื่อป้องกันการลำเลียงสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ ผ่านเข้ามาในพื้นที่ด้วย เพื่อให้การปฏิบัติงานดังกล่าวมีประสิทธิภาพ ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ จึงได้จัดให้มีพิธีปล่อยแถวกำลังพลในการอำนวยความสะดวกการจราจร ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนและการออกตรวจสถานบริการ/สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2567 ขึ้น โดยมีข้าราชการตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ และทุกภาคส่วนราชการภาคีเครือข่าย รวมผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 160 นายอีกด้วย
จากนั้น พล.ต.ต.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ได้เข้าตรวจจุดตรวจจราจรพร้อมกับวัดแอลกอฮอร์กับผู้ขับขี่และมอบหมวกนิรภัยให้กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย และได้กำชับให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยึดหลักกฏจราจรต่อไป