จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้นที่บริเวณตลาดสดเทศบาลรัตนบุรี ถนนศรีนคร อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 22.15 น. โดยเพลิงได้โหมไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นอาคารไม้ปลูกติดกันเป็นห้องแถวหลายคูหา ประกอบกับมีลมแรง ทำให้ยากต่อกับดับอย่างทันท่วงที ทำให้ไฟเผาผลาญร้านค้าและทรัพย์สินวอด ประเมินมูลค่าน่าจะร่วมร้อยล้านบาท ยกตัวอย่างร้านค้าทองคำที่มีทรัพย์สินเป็นทองรูปพรรณจำนวนมาก ร้านค้าของมีมูลค่าสูงๆก็ถูกเผาไหม้ไปกับกองเพลิง










ผู้สื่อข่าวได้ไปสำรวจการเปิดจุดรับบริจาคและศูนย์รับช่วยเหลือผู้ประสบอัคคีภัย ซึ่งตั้งอยู่ที่ลานจอดรถหน้าตลาดสดเทศบาลรัตนบุรี(สถานที่เกิดเหตุ) ได้มีหน่วยงานภาครัฐ ทั้ง ปกครองอำเภอรัตนบุรี นำโดยนายตวงอัฐ บุตรวิชา นายอำเภอรัตนบุรี พร้อมกิ่งกาชาดอำเภอ และ เจ้าของพื้นที่รับผิดชอบคือเทศบาลตำบลรัตนบุรี นำโดยนายวีระ เทพวงศ์ศิริรัตน์ นายกเทศมนตรี นำเจ้าหน้าที่ออกมารับเรื่องและประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุไฟไหม้ในครั้งนี้ด้วยตนเอง ซึ่งจากกรณีนี้บางส่วนเกิดเรื่องดราม่าของการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ภาครัฐในช่วงเกิดเหตุ จนทำให้เกิดการสื่อสารข้อมูลในกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบบางส่วนและประชาชนในวงกว้าง
วันนี้(18 เม.ย.) ทางนายอำเภอรัตนบุรี และ นายกเทศมนตรีเทศบาลรัตนบุรี จึงถือโอกาสร่วมกันตั้งโต๊ะแถลงข้อเท็จจริงและลำดับเหตุการณ์ ต่อหน้าคณะสื่อมวลชนและประชาชน ถึงการปฏิบัติงานเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ โดยชี้แจงถึงภาพรวมการเปิดรับบริจาคจากทุกภาคส่วน ขั้นตอนการช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้น และการชี้แจงข้อมูลในวันเกิดเหตุที่เป็นเรื่องดราม่าการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยชาวบ้านมีการกล่าวว่าเจ้าหน้าที่เข้าถึงที่เกิดเหตุล่าช้า , เข้ามาแล้วไม่รีบดำเนินการดับไฟ , รถดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานไม่มีประสิทธิภาพทำให้เพลิงลุกลามเสียหายพื้นที่ของตนบ้าง ทำให้ผู้เสียหายบางส่วนเกิดการโจมตีการทำงานของภาครัฐ
ทั้งนี้ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรัตนบุรี ได้ชี้แจงข้อโต้แย้งของชาวบ้านที่ไม่พอใจมาตระโกนโห่ขณะนั่งโต๊ะแถลงว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ในขณะเกิดเหตุนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็ว และเต็มที่ แต่ด้วยปัจจัยของการเกิดอัคคีภัยทั้งเชื้อเพลิง ประกอบกับสภาพอากาศขณะนั้นมีลมพอสมควร ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว แต่เจ้าหน้าที่ชุดแรกก็ใช้เวลาไปถึงที่เกิดเหตุภายในไม่ถึง 10 นาที แต่เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ประกอบกับได้รับข้อมูลการปฏิบัติงานว่า ขณะเพลิงลุกไหม้ยังมีกระแสไฟวิ่งในพื้นที่ จึงทำตามขั้นตอนเพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชน โดยการประสานตัดกระแสไฟฟ้าก่อนทำการระดมให้รถน้ำที่เข้าพื้นที่ ก่อนฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ข้ามฝั่งไปยังบ้านเรือนอีกฝั่งถนนในระยะไม่ถึง 5 เมตร เพราะลมแรงทำให้ไฟโหมจะข้ามไปอีกฝั่งถนนซึ่งเป็นที่พักอาศัยของคนอีกจำนวนมาก และเรื่องรถดับเพลิงเจ้าหน้าที่ก็ประเมินว่าไม่สามารถลุยความร้อนของเพลิงเข้าไปในระยะที่ประชาชนเข้าใจ รวมทั้ง อำเภอและเทศบาลก็แจ้งประสานไปขอสนับสนุนจากหลายเทศบาล หลายอำเภอ หรือจังหวัดข้างเคียงรวมเกือบ 50 คัน บุคลากรร่วมร้อยคน รุดเข้ามาช่วยดับเพลิงในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด ภายในระยะเวลาเท่าที่จะทำได้จนเพลิงสงบลง
ซึ่งเป็นข้อมูลเดียวกับจากการชี้แจงจากนางธิดารัตน์ ศาตะสมิต ปลัดเทศบาลตำบลรัตนบุรี และชี้แจงทามไลม์ช่วงเวลาเกิดเหตุและเวลาการเข้าถึงเพื่อปฏิบัติหน้าที่ของรถดับเพลิง โดยอ้างอิงจากภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่ได้จากมุมของสี่แยกหน้าตลาด ที่แสดงภาพตั้งแต่เริ่มมีกลุ่มควันจนเกิดเพลิงลุกไหม้ แต่ยังส่องไปไม่ถึงจุดต้นเพลิง เพราะกล้องนี้เป้นกล้องที่จับภาพแยกไฟแดงดูการจราจรเท่านั้น แต่สามารถอ้างอิงถึงเวลาต้นเพลิงไปจนถึงการเข้าถึงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ได้เป็นอย่างดี หักล้างกับคำกล่าวหาจากชาวบ้านว่าเจ้าหน้าที่ถึงที่เกิดเหตุช้า หรือ ปฏิบัติงานไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งนายวีระ เทพวงศ์ศิริรัตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรัตนบุรีขอค้านว่า เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างรวดเร็ว เต็มที่ และเสียสละ จึงอยากให้ทุกคนเข้าใจ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคน ก้าวข้ามข้อสงสัยติเตียน กลับมาร่วมมือร่วมใจกันเยียวยารักษาเหตุจากภัยในครั้งนี้ และไม่ใช้ความผิดของใคร เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดความสูญเสียแบบนี้