เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม เวลา 13.30 น. ที่กองบังคับการกองร้อยสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดที่ 1 บ้านกลาง ตำบลปากตม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย พลโทอดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 นายกิตติคุณ บุตรคุณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย พลตรี นรธิป โพยนอก ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดเลย ร่วมแถลงข่าว ตรวจยึดยาเสพติดจำนวน 14 กระสอบ (4,290,000 เม็ด) ในพื้นที่ อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย


สืบเนื่องจากกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี โดย พันเอก วรวุฒิ สำราญ ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 3 (ร.8) / ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 8 ได้รับข่าวสารจากการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานข่าวในพื้นที่ ว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไม่ทราบจำนวน ข้ามมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว เข้ามายังฝั่งไทย ในพื้นที่ อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย จึงให้กองร้อยสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดที่ 1 บูรณากำลังวางแผนร่วมกับกำลังในพื้นที่ ทำการซุ่มเฝ้าตรวจบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด เข้าทำการสกัดและตรวจค้น บริเวณริมถนนหลวงแผ่นดินหมายเลข 2195 เส้นเชียงคาน – ท่าลี่ ตำบลปากตม อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย เพื่อลำเลียงขนส่งเข้าสู่พื้นที่ตอนใน จึงได้เข้าพิสูจน์ทราบพื้นที่ดังกล่าว พบของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 14 กระสอบ ประมาณ 4,290,000 เม็ด หน่วยกองบังคับการกองร้อยสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดที่ 1 เป็นหน่วยงานหลักในการปฏิบัติ จึงได้ประสานหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ร่วมบันทึกภาพถ่ายไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำของกลางทั้งหมดมาตรวจนับอย่างละเอียด ที่กองบังคับการกองร้อยสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดที่ 1 เมื่อดำเนินการเรียบร้อย ได้นำส่งของกลางให้กับ สภ.เชียงคาน จังหวัดเลย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ต่อข้อถามจากสื่อมวลชนว่า ขอให้นำเสนอต่อรัฐบาลให้แก้กฎหมาย ให้มีอัตราโทษรุนแรงถึงขั้นประหารชีวิตแม้ครอบครองยาเพียง 1 เม็ด เหมือนประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ไม่เช่นนั้นต้องมารอรับการแถลงข่าว กำลังพลที่ควรจะไปป้องกันประเทศ งบประมาณที่สามารถนำไปพัฒนาประเทศ กลับต้องมาหาอุปกรณ์ กำลังพล ทุ่มไปกับการปราบปรามยาเสพติด ที่มีแต่เพิ่มขึ้นทุกวัน พลเมืองที่ติดยา เกิดอาการคลุ้มคลั่งสร้างความเดือดร้อน
พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า โดยที่ผ่านมา กองทัพบก, กองทัพภาคที่ 2 และ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้ยึดถือตามกรอบแนวคิดของรัฐบาล ที่ว่า แก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ปราบปรามแหล่งผลิตและเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด การลดจำนวนผู้ค้าและผู้เสพรายใหม่ และให้ความรู้เยาวชนถึงภัยยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง การแก้กฎหมายเป็นส่วนทางรัฐบาลและทางรัฐสภา ซึ่งต้องได้รับการร้องเรียนหรือรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ที่ต้องช่วยกันส่งเสียงให้เรียกร้องกันให้มาก