เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านางสำราญ อุทุมพันธ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64 ม.1 ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ต. สิทธิพงศ์ พลบุบผา สารวัตร.(สอบสวน)สภ.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานีให้ดำเนินคดีกับเจ้าอาวาสวัดบ้านแก่งศรีโคตร อายุ 85 ปีหมู่ที่ 3 ต.โนนก่อ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี ในข้อหา กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม เนื่องจาก ด.ช.นัน (นามสมมุติ) อายุ 9 ปี ซึ่งเป็นหลานชายได้มาบวชเณรที่วัดบ้านแก่งศรีโคตร ได้ถูกพระครูวิบูล กิจโกศล ล่วงละเมิดทางเพศ ช่วงวันที่ 5 เมษายน 2567 ถึงวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 และหลังจากลาสิกขา เมื่อวันที่ 16-18 พฤษภาคม 2567 ก็ได้เรียก ด.ช นัน (นามสมมุติ) กลับไปเป็นลูกศิษย์วัด และยังได้ล่วงละเมิดทางเพศอีก ซึ่งเมื่อได้ทราบเรื่องดังกล่าวจากปาก ด.ช.นัน (นามสมมุติ) เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ด.ช.นันทกร ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง ในฐานะ ยายจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ในคดีนี้ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับเจ้าอาวาสวัดบ้านแก่งศรีโคตร ให้ได้รับโทษตามกฎหมาย เหตุเกิด ที่กุฏิเจ้าอาวาส ภายในวัดบ้านแก่งศรีโคตร หมู่ที่ 3 บ้านแก่งศรีโคตร ต.โนนก่อ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี วันที่ 5 เมษายน 2567 ถึงวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ทั้งเวลากลางวันและกลางคืน และเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ถึงวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 เวลากลางคืน และ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 18.00น.
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบจ้าอาวาสวัดบ้านแก่งศรีโคตร ชี้แจงว่า หลวงพ่อมีสันดานรักเด็ก ชอบเด็ก และเมตตาเด็ก เคยส่งเสียเด็กๆจนเรียนจบ จนได้ดี ซึ่งเด็กน้อยหรือสามเณร หลวงพ่อก็ชอบกอด ชอบดม ตอนแรกที่สามเณรนัน (นามสมมุติ) มาบวช เห็นนอนอยู่คนเดียว เณรบอกกลัวก็เลยสงสารเมตตาให้มานอนใกล้ๆ ก็เลยกอดหอมเณร เณรก็สนุกไปด้วย เห็นว่าสามเณรเป็นเด็ก อาตมาก็ไม่รังเกียจก็เลยทั้งหอม ทั้งดม ช่วงที่สามเณรสึกออกไป สามเณรก็เข้ามาที่วัด ในช่วงที่ทำกับสามเณรนับไม่ได้ว่าทำกี่ครั้ง ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เรื่องสนุกแบบนั้น ทั้งนี้อาตมายอมรับว่าได้ทำจริง ยอมรับผิดและยินดีขอชดใช้ค่าเสียหายให้กับญาติสามเณร เรียกมาเท่าไหร่ก็จะจ่ายให้
ด้านนายนพพงษ์ พรทับ อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3บ้านแก่งศรีโคตร ต.โนนก่อ อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ได้แนะนำว่าให้นำเด็กไปตรวจ แล้วค่อยมาคุยกัน เบื้องต้นได้คุยกับหลวงพ่อแล้วว่าได้ทำจริง ลักษณะเหมือนการหยอกกันเล่นกัน ในฐานะเป็นผู้นำหมู่บ้านก็อยากจะไปพูดคุยกับทางแม่สามเณรผู้เสียหาย เพราะว่าหลวงพ่อก็มีคุณงามความดีกับบ้านเมืองมาเยอะก็เลยนึกสงสารท่าน อยากไปพูดคุยเบื้องต้นกับทางญาติสามเณร ทั้งนี้ถ้าหากว่าเป็นเรื่องจริงก็แล้วแต่หลวงพ่อ ทางชาวบ้านก็เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ความรู้สึกของชาวบ้านก็ยังเคารพนับถือหลวงพ่ออยู่
ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อไปยัง นางณภัค เทียนชัย ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดอุบลราชธานี ที่เบอร์โทร 089 -9267619 เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงและขั้นตอนในการดำเนินการกับพระพระครูวิบูล กิจโกศล เมื่อรู้ว่าเป็นเบอร์โทรของนักข่าวก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์
