วันที่ 10 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีคดีที่มีชายคนหนึ่งก่อเหตุลักพาตัว “น้องอุ๋งอิ๋ง” เด็กหญิงวัย 3 ขวบจากโรงเรียนในจังหวัดกาฬสินธุ์ ก่อนจะพาตระเวนขี่รถจักรยานยนต์ข้ามหลายจังหวัด กระทั่งถูกจับกุมได้ที่สำนักสงฆ์ในอำเภอท่าอุเทน ส่วนน้องอุ๋งอิงมีผู้พบเห็นขณะเดินอยู่ริมถนนหน้าสำนักสงฆ์ ก่อนจะประสานไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ล่าสุดแม่และครอบครัวของเด็กเดินทางมารับตัวแล้ว นี่เป็นภาพวินาทีที่แม่สวมกอด “น้องอุ๋งอิ๋ง” ลูกสาววัย 3 ขวบ หลังจากที่เกือบตลอด 24 ชั่วโมงต้องพลัดพรากจากกัน เพราะถูก
นายอำพล วระคุณ อายุ 29 ปี ชาวอำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ก่อเหตุลักพาตัวมาจากโรงเรียนองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ 7 บ้านสวนป่า ตำบลนาจารย์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เวลา 12.18 น. เมื่อวานนี้ ก่อนจะขับขี่รถจักรยานยนต์พาเด็กตระเวนเดินทางไปหลายจังหวัด ทั้งกาฬสินธุ์ อุดรธานี และที่อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม กระทั่งถูกตำรวจจับกุมขณะมาพักอยู่ภายในสำนักสงฆ์บ้านแก้งส้มโฮ ตำบลพะทาย อำเภอท่าอุเทน













การติดตามตัวน้องอุ๋งอิ๋ง และผู้ต้องหาได้ในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเช้าวันนี้ เวลาประมาณ 09.00 น. นางประไพศรี ไพศาล ผู้อำนวยโรงเรียนบ้านนาข่าท่า ตำบลพะทาย พบเห็นเด็กหญิงยืนอยู่บริเวณริมถนน ทางเข้าสำนักสงฆ์บ้านแก้งส้มโฮง จึงได้ลงไปดู พร้อมประสานกับผู้บริหารสถานศึกษาที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเพื่อให้ตรวจสอบว่าเป็นบุตรหลานที่อยู่ในพื้นที่หรือไม่ ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่าไม่ใช่เด็กในโรงเรียน จึงได้ติดตามทางสื่อสังคมออนไลน์ ก็พบว่ามีการแจ้งความเด็กหาย จึงได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ที่พบตัวเด็ก พบว่า ยังอยู่ในอาการหวาดกลัว ร้องไห้หาแม่ตลอดเวลา ครูต้องพาไปอยู่นักเรียนในระดับเตรียมอนุบาลเพื่อให้เด็กคลายความกังวล
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม นายอำพล ผู้ก่อเหตุขณะถูกตำรวจนำตัวไปสอบปากคำ แต่ปฏิเสธที่จะให้การใดๆกับเจ้าหน้าที่ แต่จากการสอบถามของ พ.ต.ต.นพดล รัตนตรัยวงศ์ สว.สส.สภ.ท่าอุเทน ขณะไปรับตัวมายัง สภ.ท่าอุเทน ทราบว่า ผู้ก่อเหตุมีเป้าหมายที่จะเดินทางไปยังจังหวัดบึงกาฬ แต่เนื่องจากเงินเติมน้ำมันหมดจึงตั้งใจจะมาขอเงินเพื่อนที่อยู่ในอำเภอท่าอุเทน กระทั่งถูกจับกุม ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าน่าจะเกิดจากความโมโห หลังจากที่เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ผู้ก่อเหตุและแม่ของเด็ก ได้บอกเลิกคบหากันไป โดย นายอำพล ได้เคยกล่าวข่มขู่ว่าหากเลิกหรือแยกทางตนจะทำให้เสียใจเป็น 100 เท่า กระทั่งเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
ล่าสุด ของวันเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ พม. จังหวัดนครพนม ได้นำน้องอุ้งอิ๋งมาพักยังบ้านเด็กและครอบครัวเพื่อรอให้แม่เดินทางมารับตัวกลับ ต่อมาเวลา 14.00น. นางสาวจินตนาพร อรรคดี อายุ 24 ปี ชาวบ้าน ต.นาจารย์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ได้เดินทางมารับตัวและทันทีที่ถึงสองแม่ลูกต่างโผสวมกอดกันทั้งน้ำตา ต่างดีใจที่ได้พบกัน จากการสอบถาม ถึงความสัมพันธ์ของนางสาวจินตนาพรกับนายอำพล ผู้ก่อเหตุว่ามีความสนิทสนมกันดี
นางสาวจินตนาพร กล่าวว่า แต่เดิมนายอำพลเคยเป็นลูกจ้างอยู่ในบ่อเกลือซึ่งอยู่ไม่ห่างจากบ้านตนขณะที่ตนเองได้ทำงานรับจ้างกรีดยางอยู่ในพื้นที่ นายอำพลได้ทำทีเข้ามาสนิทสนมกับตนและครอบครัวจนมีความไว้วางใจต่อกัน ขณะที่ นางปรัก ภูเพชร เห็นว่าหากมีความสนิทสนมผูกสัมพันธ์ขนาดนี้จึงอยากให้ในอำพลทำการมาสู่ขอลูกสาวของตนด้วยเงินสินสอดจำนวน 50,000 บาทนั่นอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นายอำพลไม่พอใจก็เป็นได้เพราะตนก็ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปไม่มีเงินทองมากมายขนาดนั้นแต่ที่ผ่านมาจากคำให้การของนายอำพลได้บอกว่าตลอดเวลาที่สนิทสนมกับครอบครัวของนางจิตราภรณ์ตนก็เลี้ยงดูน้องอุ๋งอิ๋งลูกแท้ๆของตนคอยซื้อหาขนมอาหารการกินตามกำลังของรายได้ ทำให้เกิดความคับแค้นใจจึงเข้าไปนำตัวน้องอุ๋งอิ๋งออกมาจากโรงเรียนตามที่เป็นข่าว
เบื้องต้น ตำรวจได้แจ้งข้อหานายอำพล พ่อเลี้ยงน้องอุ๋งอิ๋ง ในข้อหา พรากผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี ก่อนควบคุมตัวส่งไปยัง สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินคดีต่อไป