จากกรณีผู้โพสต์เฟสบุ๊กชื่อว่า Wilawan Miller พร้อมกับระบุข้อความว่า#ขอโพสต์เตือน!!! ทุกคนในบ้านเมืองลีง และหมู่บ้านรอบข้าง พ่อหนูถูกขโมยเงินจากคนที่แอบอ้างตัวเองว่าเป็นพระที่มาจากบ้านโนนจำปา ขับรถเก๋งสีขาว ไม่ทราบเลขทะเบียน มาทำทีขอให้พ่อขุดกระชายให้เพื่อจะเอาไปปลูกที่วัด แล้วก็ทำทีถามว่าบ้านนี้อยู่กันกี่คน ถามว่าตาพ่อมองไม่เห็นหรอ จากนั้นขอซื้อเครื่องดื่มจากพ่อ ผู้ชายคนนี้จ่ายแบงค์ 1,000 และก็ได้เงินทอนจากพ่อไปประมาณ 800 กว่าบาท พ่อก็เก็บเงินแบงค์ 1,000 ใส่ลิ้นชัก จากนั้นผู้ชายคนนี้ก็มองดูในบ้านเห็นกล้องวงจรปิด1 ตัว จึงเดินออกไป และบอกพ่อว่าขุดกระชายให้น้อยไป ขอให้พ่อขุดให้อีก ระหว่างพ่อขุดกระชาย น่าจะเดินไปหลังบ้านและถอดสายกล้องวงจรปิด เพราะภาพมันตัดไป และขโมยเงินในลิ้นชัก หนูได้ให้เพื่อนไปดูที่บ้านพ่อให้ก็เจอสายกล้องวงจรปิดถูกถอด โดยที่พ่อไม่รู้เลยว่าถูกถอดตอนไหน ไม่ได้เสียดายเงิน แต่โกรธมากที่หากินกับคนแก่อายุ 70 พ่อหนูอาจจะไม่ใช่เคสแรก มันอาจจะทำมาเยอะแล้วเพราะดูจากกล้องวงจรปิด ดูไม่ได้เกรงกลัวและเหมือนวางแผนมาทุกอย่าง ที่ออกมาโพสต์เพราะไม่อยากให้เกิดกับพ่อแม่หรือคนในครอบครัวของทุกคน มันทั้งเสียเงินและความรู้สึก ฝากเตือนผู้สูงอายุแถวบ้านด้วยนะคะ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของคนแบบนี้ที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นพระจริงๆ หรือแค่สวมสบงใส่จีวรแล้วทำชั่วกับคนที่เขาศรัทธาศาสนา…แจ้งตำรวจอาจจะได้แค่ลงบันทึกประจำวัน จึงขอใช้พื้นที่บนโซเชี่ยลเตือนทุกคนน่าจะทั่วถึงกว่า และจะได้ระวังตัวกัน ขอบคุณค่ะ🙏🏻🙏🏻🙏🏻












ล่าสุด วันที่ 14 กรกฏาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 253 บ้านเมืองลีง หมู่ 1 อ.จอมพระ จ.สุรินทร์พบกับนายบุญเพ็ง สาระเดช(ตาเจ้าของร้านค้า) อายุ 73 ปี ได้นำผู้สื่อข่าวไปดูที่ปลูกกระชายข้างบ้านตาและได้พาเข้าไปดูที่ผู้ก่อเหตุเข้ามาถอดปลั๊กวงจรปิดและลิ้นชักเก็บเงิน พร้อมกับเล่าว่า อยู่มากว่า 30 ปีพึ่งเคยเจอและโดนเหตุการณ์นีด้วยตัวเอง ซึ่งชาวบ้านระแวกนี้ไม่มีใครโดนเลย
สัมภาษณ์ นายบุญเพ็ง สาระเดช (ผู้เสียหาย) ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า วันที่เกิดเหตุ 13 ก.ค.67 เวลา 08.30น. ได้มีชายแต่งกายคล้ายพระขับรถมาจอดที่หน้าบ้านตน ทำทีมาซื้อน้ำอัดลมและพูดคุยถามตนว่าอยู่กับใคร ตนจึงตอบไปว่าอยู่คนเดียว ตนถามชายแต่งกายคล้ายพระว่าจำวัดอยู่วัดไหน ชายคนนั้นตอบว่า อยู้วัดโนนจำปา ต.ชุมแสง อ.สตึกนี่เอง จากนั้นชายคนดังกล่าวจึงจ่ายเงินให้ตนค่าน้ำอัดลมจำนวน 1,000 บาท และเดินตามตนไปแถวบริเวณลิ้นชักเก็บเงิน ตนจึงทอนเงินให้ชายแต่งตัวคล้ายพระไป จากนั้นชายคนดังกล่าวบอกอยากได้กระชายไปปลูกที่วัดจึงขอซื้อตน ตนจึงออกไปขุดกระขายและต้นสาคูให้ จากนั้นชายที่แต่งตัวคล้ายพระได้นำกระชายขึ้นรถไป 1กระสอบใหญ่ และขับออกไป จากนั้นตนจึงเข้ามาที่ลิ้นชักเก็บเงินเพื่อจะเก็บแบงค์พันที่ชายคนดังกล่าวให้มา ปรากฏว่า เงินในลิ้นชักหายไปหมดแล้ว ซึ่งมีเงินจำนวนพันกว่าบาท โชคยังดีที่ตนเก็บเงินหมื่นไว้อีกที่จึงไม่โดนเอาไปด้วย ตนจึงได้โทรศัพท์เล่าเหตุการณ์ให้ลูกสาวฟัง ตนไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน และคิดว่าคงไม่ใช่พระจริงๆ เพราะพระจริงคงไม่ทำแบบนี้
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยัง สำนักสงฆ์โนนจำปา ต.ชุมแสง อ.สตึก บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นวัดที่นายบุญเพ็งบอกไว้ ได้พบกับ หลวงพ่อเสริม อุตะโล (พระรูปร่างเล็ก)
สำนักสงฆ์โนนจำปา ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเห็นข่าวจากโทรทัศน์แล้ว พอเห็นหน้าคนในคลิป ตนรู้เลยว่าเป็นคนคนเดียวกันที่เคยมาลักเงินตนไป จำนวน 48,000 บาท ดมื่อปีที่แล้ว โดยชายคนดังกล่าวขับรถเก๋งสีขาวทะเบียนสระแก้วเข้ามาและบอกกับตนว่าปวดท้องขอเข้าห้องน้ำหน่อย ตนเห็นว่าแต่งกายคล้ายพระจึงให้เข้าห้องน้ำ จากนั้นชายคนดังกล่าวขับรถจากไป ตนขึ้นมาที่กุฏิจึงเห็นว่ากระเป๋าเอกสารและเงินสดตนที่เก็บำว้ได้หายไปหมดแล้ว ตนได้เข้าแจ้งความแต่ก็ยังจับไม่ได้ จนมาเห็นข่าวก็จำได้ว่าเป็นคนคนเดียวกัน และเมื่อข่าวออกไปก็มีคนโทรมาถามตนว่าใช่คนนี้ไหม ตนจึงบอกไปว่าใช่ ซึ่งที่รู้มาชายคนดังกล่าวทำ พฤติกรรมเช่รนี้มาหลายที่แล้ว ตนจึงคิดว่าชายคนดังกล่าวไม่ใช่พระ แต่เป็นมิจฉาชีพอย่างแน่นอน
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดอุทมพรเมืองลีง เพื่อขอเข้าพบเจ้าคณะตำบลแต่ไม่พบ จึงได้สอบถามพระลูกวัด พระสุภาพ กันตัธรรมโม (รูปร่างท้วม)
ว่าเคยพบเห็นชายแต่งกายคล้ายพระรูปนี้ไหม พระสุภาพ กันตะธรรมโม ได้บอกว่าไม่เคยพบเห็นและอาจไม่ใช่พระจริงๆ เพราะจากมีข่าวออกไป ก็ได้มีการติดต่อสอบถามกัน แต่ไม่มีใครรู้จักชายแต่งกายคล้ายพระรูปนี้เลย