แม่ค้า ประชาชนชาวบุรีรัมย์ ยังคาดหวังจะได้เงินดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อมาช่วยแบ่งภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว หลังประสบปัญหาเศรษฐกิจซบเซา ค้าขายลำบาก ประชาชนไม่มีกำลังซื้อ แต่ส่วนใหญ่อยากให้จ่ายเป็นเงินสด เพราะจะสามารถใช้ประโยชน์ตามความจำเป็นของแต่ละครอบครัว มากกว่ารูดซื้อของที่จำกัดเฉพาะร้านที่เข้าร่วมโครงการ





วันนี้ 15 ก.ค. 2567 จากการสำรวจความเห็นของบรรดาพ่อค้า แม่ค้า ที่ขายของในตลาดสดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ รวมถึงประชาชนที่มาเดินจับจ่ายซื้อของในตลาด หลังจากรัฐบาลประกาศเดินหน้าดำเนิน โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจโดยกำหนดจะแถลงในวันที่ 24 ก.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งทั้งแม่ค้า และประชาชน ต่างก็ยังคาดหวังว่าจะได้เงินดิจิทัล 10,000 บาท เพื่อมาช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัว โดยเฉพาะช่วงนี้ซึ่งประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจซบเซา ค้าขายลำบาก ประชาชนเองก็ไม่มีกำลังซื้อ แต่ส่วนใหญ่ต่างสะท้อนว่าอยากให้รัฐบาลจ่ายเป็นรูปแบบเงินสดมากกว่าแค่รูดซื้อของ เพราะหากจ่ายเป็นเงินสดก็จะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ตามความจำเป็นของแต่ละครอบครัว ได้ตรงจุดมากกว่า แต่หากรูดซื้อของอาจจะใช้ได้เฉพาะร้านที่เข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งอาจจะไม่สามารถช่วยกลุ่มรากหญ้าได้
นางสาลี่ สรุปพล อายุ 68 ปี อาชีพรับจ้างขายดอกไม้ที่ตลาดสด บอกว่า ปัจจุบันรายได้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะช่วงนี้เศรษฐกิจย่ำแย่มาก ก็คาดหวังว่าหากรัฐบาลเดินหน้าโครงการเงินดิจิทัล ก็อยากให้ได้ในช่วงนี้ จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้บ้าง แต่หากเป็นไปได้ก็อยากให้ในรูปแบบเงินสด เพราะจะได้นำไปใช้จ่ายได้ตามความจำเป็น อาทิ อยากให้จ่ายค่าเทอมได้ เพราะมีภาระต้องส่งเสียหลานถึง 3 คน แต่หากเลือกเป็นเงินสดไม่ได้ ในรูปแบบรูดซื้อของก็ยังดี
ขณะที่ น.ส.อ้อย คนเดินเร่ขายลอตเตอรี่ บอกว่า ตอนนี้ไม่คาดหวังว่าจะได้แล้ว เพราะเห็นรัฐบาลประกาศมาหลายรอบแต่ก็ยังไม่เห็นได้สักที แต่หากได้จริงก็อยากให้จ่ายเป็นเงินสดมากกว่า เพราะจะได้นำไปใช้ประโยชน์ตามความจำเป็น และจะได้ช่วยกลุ่มคนรากหญ้าได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่จำกัดให้ซื้อได้เฉพาะร้านค้าขนาดใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการฯ เท่านั้น