วันนี้ 16 กรกฎาคม 2567 เจ้าหน้าที่ขุดพญาเสือ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าจับกุมผู้ลักลอบค้างาช้างและลูกเสือโคร่ง ได้ที่จังหวัดสุรินทร์ พร้อมของกลางเป็นงาช้างและลูกเสือโคร่ง 2 ตัว โดยเช้าวันนี้ พ.ต.อ.ยุทธนา จาตุรัตน์ ผกก.สภ.ดม พร้อมชุดสืบสวน สภ.ดม พร้อมด้วยนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ และชุดพญาเสือ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้นำหมายศาล พร้อมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เข้าตรวจค้นบ้านพัก เลขที่อยู่บ้านเลขที่ 359/3 ถ.หลักเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เพื่อหาของกลาง หลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดี และทำการขยายผลติดตามจับกุมตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง
โดยเจ้าหน้าที่ได้เดข้าตรวจค้นอย่างละเอียดภายในบ้านพัก และรอบบริเวณบ้านพัก รวมถึงด้านหลังบ้าน ซึ่งพบว่ามีร่องรอยการเข้าออกไปยังอีกพื้นที่อีกด้านที่ติดกับตัวบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง ในการตรวจค้นอย่างละเอียด พบสิ่งของที่น่าจะเกี่ยวข้องในคดีหลายรายการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดและชี้แจงว่า สิ่งของที่พบประกอบด้วย กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ 2 อัน ภายในมีเศษของวัตถุสีขาวติดอยู่และมีเศษของงาช้างตกอยู่ คาดจะเป็นกระเป๋าที่บรรจุงาช้างไว้ขาย เครื่องชั่งน้ำหนักไว้ชั่งงาช้างขาย อุปกรณ์เลื่อยไฟฟ้า ไม่บรรทัดเหล็ก เศษงาช้างที่ตัดออกมา สมุดจดเกี่ยวกับการซื้อขาย สัญญาซื้อขายงาช้าง ซึ่งจะต้องตรวจสอบ เบื้องต้นน่าจะไม่มีเอกสารรับรอง รวมทั้งลูกกระสุนปืนจำนวน 90 นัด โดยทั้งหมดเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมและนำไปประกอบแป็นหลักฐาน ในการดำเนินคดีต่อไป
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ เปิดเผยหลังตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องหาว่า สิ่งของที่พบจะนำไปประกอบคดีที่ สภ.ดมก่อนจากนั้นค่อยมอบให้ทาง สภ.เมืองดำเนินการต่อเนื่องจากเป็นท้องที่ เพราะมีการตรวจพบลูกกระสุนปืนด้วย เรื่องที่เกิดขึ้นจะมีทั้งเรื่องของลูกเสือโคร่ง ขบวนการต่อชิกซอ และมีอีก 1คน ที่น่าจะออกหมายจับเพิ่ม คือนาย สม โสดาโพธิ์ มีหน้าที่จัดหาเสือ ให้เจ้ติ๊กซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนี พิกัดสุดท้ายอยู่ที่ ปางช้าง จ.อยุธยา คาดว่ามีผู้ให้การช่วยเหลือผู้ต้องหารายนี้ ส่วนการตรวจสอบด้านหลังบ้านซึ่งพบเป็นลายกระเบื้องลายเดียวกัน ในการนำงาไปวางแล้วถ่ายรูป เป็นที่สังเกตว่าก่อนหน้านั้นใหม่ แต่สภาพในตอนนี้เก่าและร้าง อาจจะมีภาพก่อนหน้านั้นลอดเอาไปขายเรื่อยๆ หมายความว่าเขาอาจจะโชว์งาในลายให้กับคนอื่นว่ามีงาอยู่ แต่งานั้นไม่มีในวันนี้ แต่ก็จะเป็นคนมีออร์เดอร์อยู่แล้ว แต่เรายังไม่ทราบว่ามีโกดังที่เก็บไว้อยู่ที่ใด ในวันนี้ได้ขอหมายเข้าตรวจค้นเพียงที่เดียว เราไม่ได้ขอหมายเพิ่ม เพราะทราบว่าผู้ต้องหามีบริษัทอีก 3 บริษัท ซึ่งอยู่ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ แต่เรายังไม่ทราบว่าอยู่จุดไหน การขอหมายกระชันชิดไปนิดหนึ่ง วันนี้ได้แค่นี้ก็ไม่เป็นไร แต่ก็พบมีร่องรอยออกทางหลังบ้านทะลุไปอีกฝั่ง ซึ่งจะต้องตรวจสอบในกล้องวงจรปิดต่อไป โดยงานนี้จะไม่มีจบแค่นี้ เจ้าหน้าที่ค่อนข้างจะรู้ระเอียดมากกว่านี้ แต่บางเรื่อง หากไม่มีหลักฐานจะพูดไปถึงบุคคลที่ 3 และ 4 ไม่ได้ นายชัยวัฒน์ กล่าว
ในการจับกุมดังกล่าว นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ได้รับแจ้งจากสายข่าว และประสานงานร่วมกับชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรดม ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ว่าจะมีการลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ โดยทราบว่าจะมีการ ซื้อ-ขาย ลูกเสือโคร่ง จำนวน 6 ตัว และงาช้างเอเชียและแอฟริกา ที่บริเวณ 4 แยกวงเวียนบ้านลันแต้ ต.เทพรักษาฯเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.ของคืนวันที่ 15 ก.ค.67 ที่ผ่านมา
นายชัยวัฒน์ฯ จึงมอบหมายให้ นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผู้อำนวยการส่วนชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติ และสัตว์ป่า (พญาเสือ) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ร่วมกันวางแผนวางกำลัง เพื่อดักซุ่มเข้าจับกุม โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ชุดเฉพาะกิจพญาเสือ,สปป.2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ),ตำรวจ สภ.ดม นำโดย พ.ต.อ.ยุทธนา จาตุรัตน์ ผกก.สภ.ดม,ตำรวจ กก.3 บก.ปทส.และชุดปฏิบัติการข่าว ประจำจังหวัดสุรินทร์ กอ.กรม.ภาค 2 สย.2
เมื่อถึงเวลานัดหมาย ชุดเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าประจำจุด ดักซุ่มในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.55 น. พบรถต้องสงสัย เป็นรถเก๋ง ยี่ห้อเบนซ์ สีดำ หมายเลขทะเบียน ฐฐ 7245 กรุงเทพมหานคร หยุดรถอยู่บริเวณจุดนัดพบซื้อ-ขายของกลาง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พบผู้ต้องหา จำนวน 2 คน ภายในรถ เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน ทราบชื่อดังนี้ 1. นายกรฤทธิ์ ตั้งวงศ์เจริญกิจ อายุ 51 ปี และ2 นางมนัส ตั้งวงศ์เจริญกิจ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 359/3 ถ.หลักเมือง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ตรวจสอบของกลางพบ 1. สัตว์ป่าคุ้มครอง ลูกเสือโคร่ง (Panthera tigris) จำนวน 2 ตัว เพศผู้ 1 ตัว เพศเมีย 1 ตัว อายุ ประมาณ 2 เดือน สภาพลูกเสือโคร่งมีอาการท้องเสีย ขาดน้ำ อิดโรย และซูบผอม 2. งาช้างเอเชีย จำนวนแบบกิ่ง 2 คู่ น้ำหนักทั้งหมดประมาณ 100 ก.ก.และงาช้างแอฟริกา 26 ท่อน น้ำหนักรวมประมาณ เกือบ 100 กิโลกรัม และผลิตภัณฑ์งาช้างอีก 5 รายการ มูลค่ารวมทั้งสิ้น กว่า 5,000,000 บาท
โดยมีการตรวจยึดลูกเสือโคร่งได้เพียง 2 ตัว เนื่องจากผู้ต้องหาอ้างว่าสามารถจัดหามาได้เพียง 2 ตัว เนื่องจากลูกเสือโคร่งมีอาการท้องเสีย ซูบผอม และอิดโรย คณะเจ้าหน้าที่จึงได้นำสัตวแพทย์ตรวจสภาพร่างกาย โดยช่วงแรก ลูกเสือโคร่งมีอาการตื่นกลัว ท้องเสีย และไม่มีแรง จึงได้ให้น้ำเกลือแก่ลูกเสือโคร่งตัวผู้ และให้อาหารลูกเสือโคร่ง (นม) ทั้งสองตัว ขณะที่ลูกเสือ 2 ตัว เจ้าหน้าที่กรมอุทยานจะได้มีการตรวจสุขภาพ ให้นมและดูแลรักษาอาการอย่างใกล้ชิด พร้อมจะนำไปควบคุมดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงพันธุ์สัตว์ป่าจุฬาภรณ์ ตั้งอยู่บริเวณภายในโครงการทับทิมสยาม 06 บ้านนาจะเรีย ตำบลปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งลูกเสือมีร่างกายซูบผอม และยังเดินเล่นในคอกกั้น ส่งเสียงร้องโดยไม่กลัวคนแต่อย่างใด ซึ่งเป็นภาพที่น่าสงสารและน่าเวทนาอย่างยิ่ง ที่ลูกเสือทั้ง 2 ตัวต้องพรากจากแม่เสือ ขบวนการลักลอบค้าลูกเสือโคร่ง ส่วนมากต้องการนำไปเป็นอาหาร (เปิบพิสดาร) โดยจะมีการลักลอบผสมพันธุ์เสือโคร่ง เมื่อลูกเสือโคร่งเกิด จะไม่มีการแจ้งการเกิดตามระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และลักลอบค้าลูกเสือ ราคาตัวละ 280,000 บาท งาช้าง กิโลกรัมละ 25,000 บาท คณะเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจยึดจับกุม นำส่ง สภ.ดม .อ. สังขะ จ.สุรินทร์ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ทั้งนี้ จนท.ได้มีการการเจรจาล่อซื้อลูกเสือ จำนวน 8 ตัว ตัวใหญ่ 2 ตัว ตัวเล็ก 6 ตัว กับตัวการใหญ่ ซึ่งเป็นผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่าอย่างผิดกฎหมายและมีชื่อเสียยงอยู่ในแวดวงดังกล่าวมานาน ซึ่งสายลับมีการสืบและทำการล่อซื้ออย่างรวดเร็วด้วยความแยบยล จนคนร้ายตายใจและยอมนำสัตว์ป่าและของกลางออกมาจากพื้นที่ จ.มุกดาหารมาส่งให้ แต่คาดว่าระหว่างนั้น ตัวการใหญ่เกิดไหวตัวทัน และเปลี่ยนใจลองเชิงค้าขายลูกเสือจำนวน 2 ตัวก่อน โดยให้ 2 สามีภรรยานำลูกเสือ 2 ตัวจากพื้นที่อื่น มาส่งให้พร้อมงาช้างส่วนหนึ่งแทน ก่อนถูกจับกุมตัวดังกล่าว
