
พ่อค้าแม่ค้า และประชาชนชาวบุรีรัมย์ กังวลโครงการเงินดิจิทัล 1 หมื่นล่ม และเศรษฐกิจชะงัก หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ “เศรษฐา” พ้นตำแหน่ง แต่คาดหวังนายกฯ คนใหม่จะใส่ใจปากท้องประชาชนมากกว่านี้ไม่ใช่ถกเถียงแต่เรื่องการเมือง ขณะบางส่วนบอกจะถอดถอนหรือไม่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร เพราะตลอดช่วงที่เป็นนายกฯ และรัฐบาลชุดนี้บริหหารก็ยังไม่เห็นอะไรเป็นรูปธรรม
วันที่ 14 สิงหาคม 2567 บรรยากาศในตลาดสดเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ทั้งบรรดาพ่อค้า แม่ค้า และประชาชน ต่างสนใจติดตามชมการถ่ายทอดสด การอ่านคำวินิจฉัยของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรณีวินิจฉัยถอดถอน นายเศรษฐา ทวีสิน ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากกรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่ไม่มีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ หลังจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 5 ต่อ 4 วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทั้งบรรดาพ่อค้า แม่ค้า และประชาชนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า รู้สึกกังวลเกรงว่าโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่ทำรัฐบาลชุดนี้ทำไว้จะล่มหรือไม่ และเกรงจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมที่ย่ำแย่อยู่แล้ว จะแย่ลงไปกว่าเดิมอีก เพราะหากมีนายกคนใหม่ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงนโยบายใหม่ ทำให้ไม่เกิดความต่อเนื่องในการบริหาร โดยเฉพาะต่างประเทศจะขาดความเชื่อมั่น






แต่ก็คาดหวังว่าคนที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นและใส่ใจความเดือดร้อนและปากท้องของประชาชนมากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาเหมือนรัฐบาลไม่ได้จริงใจในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตประชาชนเท่าที่ควร เพราะยังไม่เห็นโครงการอะไรที่เป็นรูปธรรมเลย ส่วนใหญ่จะถกเถียงกันเรื่องเกี่ยวกับการเมืองมากกว่า
ขณะที่ประชาชนบางส่วนบอกว่า แม้ว่านายเศรษฐา จะพ้นหรือไม่พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้มีผลอะไร เพราะช่วงที่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหาร ก็ไม่ได้ทำอะไรให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเลย กลับประสบปัญหาข้าวของแพงมากกว่า แต่ก็แอบคาดหวังว่าหากมีนายกคนใหม่ และรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหาร จะใส่ใจแก้ปัญหาบ้านเมือง และปากท้องประชาชนมากกว่านี้