
ชาวบ้าน 2 อำเภอที่ จ.บุรีรัมย์กว่า 10 ราย บุกร้องผู้ว่าฯ ช่วยเหลือและตรวจสอบเอาผิด อดีต ผอ.ร.ร. และนายก อบต.ใช้อิทธิพลฮุบที่ทำกินไม่เป็นธรรมเนื้อที่กว่า 200 ไร่ เดือดร้อนไม่มีที่ทำกินกว่า 20 ปี บางรายเครียดล้มป่วยติดเตียง ซ้ำอ้างสิทธิ์สวมรอยออก สปก.เป็นของตนเองและเครือญาติ ตา 82 น้ำตาล่วงไม่มีที่ดินให้ลูกหลานทำกิน








(30 ส.ค.67) ชาวบ้าน ผู้สูงอายุใน อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ กว่า 10 ราย ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดให้ช่วยเหลือและตรวจสอบเอาผิดอดีต ผอ.โรงเรียนในอำเภอบ้านกรวด และนายก อบต.ในอำเภอละหานทราย โดยอ้างว่าทั้ง ผอ.โรงเรียน และนายก อบต.ใช้อิทธิพลฮุบที่ดินทำกิน ทั้งที่ ภ.บ.ท.5 และ ส.ป.ก.4-01 เฉลี่ยรายละตั้งแต่ 3 ไร่ ถึง 70 ไร่ รวมเนื้อที่กว่า 200 ไร่เป็นเวลา 20 – 30 ปี สืบเนื่องจากชาวบ้านไปกู้ยืมเงินจากอดีต ผอ.โรงเรียน และนายก อบต.ที่ถูกกล่าวอ้าง แล้วหาเงินไปจ่ายล่าช้า บางรายพยายามจะนำเงินไปใช้หนี้เพื่อต้องการที่ดินคืน แต่กลับถูกอดีต ผอ.และนายก อบต.เรียกเงินในยอดที่สูงจากจำนวนเงินที่ยืมไปหลายเท่าตัว อาทิ ยืมไป 45,000 บาท แต่ให้จ่ายคืน 400,000 บาท บางรายยืม 100,000 บาท ทยอยจ่ายคืนไปแล้วทั้งต้นและดอกเบี้ย 500,000 บาท แต่กลับบอกว่ายังจ่ายไม่ครบ หากอยากได้ที่ดินคืนต้องจ่ายในราคา 2 ล้านบาท จนชาวบ้านบางคนเกิดความเครียดเส้นเลือดสมองตีบกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง เพราะทำอะไรได้ หนำซ้ำอดีต ผอ. และนายก อบต. ยังอ้างสิทธิ์ในที่ดินที่ยึดจากชาวบ้านไปสวมรอยออก สปก.เป็นชื่อของตนเอง และเครือญาติโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
จากกรณีดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านไม่มีที่ทำกิน จึงได้พากันมาร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมเพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ช่วยเหลือเอาที่ดินคืนให้กับชาวบ้านได้มีที่ทำกินตามสิทธิ์ที่ได้รับ และอยากให้ตรวจสอบเอาผิดอดีต ผอ. และนายก อบต. ด้วย
นายปรีชา ประกอบมิตร ชาว ต.หนองไม้งาม อ.บ้านกรวด หนึ่งในชาวบ้านที่ถูกอดีต ผอ.โรงเรียนฮุบที่ทำกิน บอกว่า ที่ดินที่ถูกอดีต ผอ.ยึดไปเป็นที่นิคมสร้างตนเอง รัฐให้ทำกินตั้งแต่สมัยปู่และตกทอดมาเป็นของพ่อทำกินเรื่อยมา กระทั่งพ่อไปกู้ยืมเงินกับอดีต ผอ.มา 100,000 บาท เพื่อมาลงทุนทำกินและใช้จ่ายในครอบครัว ก็ทยอยจ่ายคืนทั้งต้นและดอกเบี้ยไปแล้ว 500,000 บาท แต่พอไปทวงถามเรื่องที่ดินอดีต ผอ.กลับบอกว่ายังไม่ได้จ่าย จากนั้นเขาก็เข้ายึดครอบครองทำประโยชน์และอ้างสิทธิ์ไปออก สปก.เป็นชื่อของเขา ทำให้ครอบครัวเดือดร้อนไม่มีที่ทำกิน จึงได้มาร้องให้ผู้ว่าฯ ช่วยเหลือ
ขณะที่คุณตาเพียน เสียมลอยน้ำ อายุ 82 ปี ชาวต.สำโรงใหม่ อ.ละหานทราย ที่ถูกนายก อบต.คนหนึ่งในอ.ละหานทราย เข้าฮุบที่ทำกิน เล่าทั้งน้ำตาว่า ลูกเขยได้ไปยืมเงินจากนายก อบต.มา 30,000 บาท เพื่อให้ลูกชายบวช โดยที่ตนเองไม่รู้เรื่อง จากนั้นปี 2543 นายก อบต.ก็เข้ายึดครอบครองที่ดินทั้ง 15 ไร่เป็นของตนเองและทำประโยชน์มาจนถึงปัจจุบัน เคยไปสอบถามเขาบอกว่าถ้าอยากได้คืนต้องจ่ายเงินให้ 700,000 บาท ครอบครัวฐานะยากจนก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็อยากได้ที่คืนเพื่อไว้ให้ลูกหลานได้ทำกิน จึงได้มาร้องขอให้ผู้ว่าฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้วย
ด้านนายชุมพล ภูผานิล ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจ.บุรีรัมย์ ได้เป็นตัวแทนมารับหนังสือจากชาวบ้าน พร้อมระบุว่า ภายหลังรับเรื่องร้องจากชาวบ้านแล้วก็จะนำเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบ พร้อมจะประสานไปยัง สปก.จังหวัด เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามกระบวนการขั้นตอน และให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป อย่างไรก็ตามตามกฎหมายที่ สปก.ไม่สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ ผู้ที่ได้รับสิทธิ์จากรัฐเท่านั้นที่มีสิทธิ์ทำประโยชน์