
ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ รวบ อปพร.โหดทั้งเตะกระทืบและท่อนไม้ไผ่กระหน่ำตีซ้ำเมียใหม่เพิ่งคบหากันได้ไม่ถึงปีดับหน้าห้องน้ำ ก่อนขี่ จยย.ไปบอกพ่อแม่คนตายที่บ้าน แม่ไม่อโหสิกรรมและให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายถึงที่สุด ขณะเพื่อนบ้านแฉพฤติกรรมคนก่อเหตุชอบดื่มเหล้าและมีพฤติกรรมโมโหดร้าย ตบตีทำร้ายเมียเก่าประจำจนทนไม่ไหวเลิกรากัน

เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ( 17 ก.ย.67) พ.ต.อ.จำรัส ศิริเลี้ยง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ และพนักงานสอบสวน ได้ควบคุมตัว นายคำมี แสนแก้ว อายุ 57 ปี อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุทำร้ายร่างกาย น.ส.ทิพย์วรรณ หรือหนูนา อายุ 38 ปี ภรรยาใหม่ซึ่งเพิ่งคบหาอยู่กินกันได้ยังไม่ถึงปีเสียชีวิต ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณหน้าห้องน้ำ ข้างบ้านปูนชั้นเดียว ในหมู่บ้านโคกเพชร ต.หนองตาด อ.เมืองบุรีรัมย์ เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. (17 ก.ย.67) ที่ผ่านมา
โดยนายคำมี ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย น.ส.ทิพย์วรรณ เสียชีวิตจริง โดยอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อคืนที่ผ่านมาได้นั่งดื่มเหล้าอยู่เตียงหน้าบ้าน โดย น.ส.ทิพย์วรรณ ภรรยา ก็นั่งอยู่ที่เปลหน้าบ้านด้วย พอเมาตนก็พยายามถาม น.ส.ทิพย์วรรณ หลายครั้งว่าเอาเงินที่ขโมยของตนเองไปไว้ที่ไหน แต่ น.ส.ทิพย์วรรณ ไม่ยอมบอก จึงได้ตบและเตะ จากนั้น น.ส.ทิพย์วรรณ ก็บอกว่าเอาไปไว้ในห้องน้ำตนก็บังคับให้ไปหา แต่มาบอกตนว่าหาไม่เจอ จึงโมโหทั้งเตะกระทืบไปอีกหลายครั้งแล้วก็คว้าท่อนไม้ไผ่กระหน่ำตีซ้ำไปอีกนับครั้งไม่ถ้วน จน น.ส.ทิพย์วรรณ นอนแน่นิ่ง ก็คิดว่าแค่เมาลุกไม่ขึ้น ก็เดินกลับไปดื่มเหล้าต่อ แต่พอเดินไปเข้าห้องน้ำอีกรอบ น.ส.ทิพย์วรรณ เสียชีวิตอยู่หน้าห้องน้ำแล้ว จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปบอกพ่อกับแม่ของ น.ส.ทิพย์วรรณ ว่าลูกเสียชีวิตแล้ว จากนั้นก็มารอมอบตัวอยู่ที่บ้าน
ซึ่งนายคำมี ยังอ้างอีกว่า คบหาอยู่กินกับ น.ส.ทิพย์ แบบผัวเมียยังไม่ถึงปี แต่มีนิสัยชอบขโมยเงินของตนเองหลายครั้ง ครั้งละ 1,500 – 2,000 บาทบ้าง แต่พอถามว่าหลังจากภรรยา เสียชีวิตแล้วหาเงินเจอมั้ย นายคำมี ผู้ต้องหาก็บอกว่าหาไม่เจอ

ด้านนางอรุณ อายุ 63 ปี แม่ของผู้ตาย บอกว่า ลูกสาวเพิ่งคบหากับนายคำมี ได้ยังไม่ถึงปี ก็ไปๆ มาๆ ไม่ได้มาอยู่ที่นี่ประจำ ที่ผ่านมานายคำมี เวลาดื่มเหล้าเมาก็จะชอบกล่าวหาว่าลูกสาวของตนเองขโมยเงิน ทั้งที่ไม่เป็นความจริงก็อยากให้ความเป็นธรรมกับลูกสาวตนด้วยเพราะตายไปแล้วไม่มีโอกาสได้พูด ส่วนตัวไม่อโหสิกรรมให้นายคำมี ที่ก่อเหตุฆ่าลูกสาว และอยากให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด
ด้านนายสน อายุ 83 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า นายคำมี เป็น อปพร.ประจำหมู่บ้าน และเป็นสัปเหร่อด้วย มีนิสัยชอบดื่มเหล้าแล้วเป็นคนโมโหร้าย เวลาเมาก็ทำร้ายร่างกายเมียเก่าบ่อยครั้ง จนเขาทนไม่ไหวเลิกรากันไปเกือบ 10 ปีแล้ว ส่วนคนที่เสียชีวิตเป็นภรรยาใหม่ เพิ่งคบหากัน ก็เห็นไปๆ มาๆ ส่วนสาเหตุก็น่าจะเกิดจากความเมาแล้วใช้ความรุนแรงกับภรรยา
ขณะที่ พ.ต.อ.จำรัส ศิริเลี้ยง ผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ระบุว่า คดีดังกล่าวผู้ก่อเหตุก็ยอมรับสารภาพว่าได้ทำร้ายร่างกายผู้ตายจริง ทั้งใช้เท้าเตะ และท่อนไม้ไผ่กระหน่ำตีตามร่างกายหลายครั้ง ส่วนสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากความเมา ส่วนที่อ้างว่าผู้ตายขโมยเงินจึงโมโหทำร้ายร่างกายนั้น ก็เป็นคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา
อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบสำนวนคดี เบื้องต้นเข้าข่ายความผิด “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย”