
มหาสารคาม ประชาชนแห่ถอนเงิน 10,000 บาทยังคึกคัก ด้านตำรวจคุมเข้มเฝ้าหน้าธนาคารป้องกันแกงค์เงินกู้ทวงเงินลูกหนี้หน้าตู้เอทีเอ็มหวั่นเจ้าหนี้โหดมาทวงลูกหนี้ ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าขายของดีกันถ้วนหน้าทำให้ยิ้มไม่หุบไปตามๆกัน

วันที่27 กันยายน 67เวลา 11.00 น ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขา ตักสิลา ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม พ.ต.อ.ไกรทอง ชัยสิงห์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่งานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองมหาสารคาม ลงพื้นที่ดูแลความสงบเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้พิการ และกลุ่มเปราะบาง ที่เดินทางมาตรวจสอบเงินหมื่น ตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 โดยที่บริเวณด้านหน้าธนาคาร มีประชาชนจำนวนมากเข้าแถวนำสมุดบัญชีมาปรับที่หน้าตู้ เพื่อดูว่าเงินหมื่นเข้าแล้วหรือไม่ ก่อนที่เข้าคิวกดเงิน หากไม่มีบัตร ATM ก็จะต้องรับบัตรคิวเพื่อเตรียมถอนเงิน

นางปุษยา ทางทอง ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขา ตักสิลา กล่าวว่า แต่ละวันมีประชาชนเดินทางปรับสมุดเพื่อดูว่าเงินเข้าหรือไม่เป็นจำนวนมาก โดยธนาคารจะแจกบัตรคิวเพื่อให้ลูกค้ามาทำธุรกรรมวันละ 200 คิว เนื่องจากมีเคาเตอร์น้อย ซึ่งลูกค้าแต่ละรายจะไม่ได้มาธุรกรรมอย่างเดียว ส่วนใหญ่จะมาทำสมุดใหม่ ทำบัตรเอทีเอ็ม และถอนเงิน ทำให้ต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก ปัญหาที่พบส่วนใหญ่ลูกค้าจะทำสมุดหาย บัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวเกิน 1 ปี ก็จะถูกหักค่าธรรมเนียม ก็จะทำให้สมุดบัญชีถูกปิดไปโดยอัตโนมัติ ก็ต้องมาเปิดบัญชีใหม่ เป็นต้น ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ธนาคารปิด 15.30 น. แต่กว่าลูกค้าคนสุดท้ายจะออกจากธนาคารก็ประมาณ 17.00 น. ส่วนพนักงานกว่าจะเคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อย ก็จะได้กลับบ้านกันประมาณ 19.30 น.

ด้าน พ.ต.อ.ไกรทอง ชัยสิงห์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีหนังสือคำสั่งด่วนที่สุด ให้ดูแลพี่น้องประชาชนได้รับเงินในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ที่เป็นกลุ่มเปราะบาง หลังได้รับข้อมูลว่ามีเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบ กระทำการข่มขู่ คุกคามทวงหนี้จากลูกหนี้ โดยได้จัดเจ้าหน้าที่ชุดสายตรวจ ตระเวนไปดูแลความสงบเรียบร้อยตามจุดของธนาคารต่าง ๆ และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำอยู่ที่ธนาคารคอยสอดส่องดูแลว่ามีเหตุการณ์ผิดปกติหรือไม่ เพื่อป้องปราม ไม่ให้กลุ่มเจ้าหนี้เงินกู้ระบบฉวยโอกาส มาเฝ้าทวงหนี้หน้าตู้ ATM ได้ ซึ่งตลอดระยะเวลาการโอนเงินในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ยังไม่พบเหตุ แต่หากประชาชนเดือดร้อนหรือมีการข่มขู่ทวงหนี้ไม่เป็นธรรม ก็สามารถเข้ามาแจ้งความได้ที่ สภ.เมืองมหาสารคา

ด้าน แม่ค้าขายลูกชิ้น ในพืนที่ อ.เมือง จ.หมาสารคาม เปิดเผยว่า ปกติมาขายที่หน้า ธนาคาร ธ .ก. ส.เป็นประจำ แต่ก็ขายไม่ดี แต่มาในช่วงนี้ประชาชนได้รับเงิน10,000 บาทจากรัฐบาล ทำให้มีเงินสะพัด ซึ่งตนเองขายน้ำขายลูกชิ้นนึ่ง โดยใส่รถเข็น หรือสามล้อพ่วงมาขาย ซึ่งก่อนหน้าดี ขายไม่ค่อยได้ หลังจากที่รัฐบาลแจกเงิน10,000 บาท ทำให้ช่วงนี้ขายดี พอลืมตาอ้าปากได้ และดีใจกับผู้ที่ได้รับเงิน10,000 บาทด้วยเช่นกัน