
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 27 ก.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลได้ทยอยจ่ายเงินโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ จำนวน 10,000 บาทต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 วันนี้ สำหรับผู้ที่มีเลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วย เลข 4-5-6-7 พบว่า ร้านค้าต่างๆในตลาดบางลำภู เขตเทศบาลนครขอนแก่น คึกคักอย่างมาก โดยที่ร้าน พีเค. ข้าวสารทอง มีลูกค้ามาซื้อข้าวสารทั้งข้าวเหนียว ข้าวเจ้า เป็นจำนวนมาก




นางลำไพ ขามเชิด อายุ 52 ปี เจ้าของร้าน พีเค. ข้าวสารทอง กล่าวว่า หลังจากที่ประชาชนได้รับเงิน 10,000 บาท มีลูกค้าเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในตลาดบางลำภู จำนวนมาก ทำให้ค้าขายดีมากขึ้น โดยเฉพาะมาซื้อข้าวสารเป็นจำนวนมาก โดยถือว่าวันนี้ยังคงขายดี แต่ไม่เท่าเมื่อวานที่ผ่าน ซึ่งมีคนมาซื้อข้าวสารตลอดทั้งวัน เนื่องจากหลายคนได้รับเงินหมื่นแล้วมาซื้อข้าวสารกันและของใช้ต่อเนื่อง
ขณะที่นางสาวพิศมัย นวลละออ อายุ 54 ปี อาชีพขายปลาทูสด ในตลาดเขตเทศบาลนครขอนแก่น กล่าวว่า ในช่วงนี้มีประชาชนเข้ามาจับจ่ายใช้สอยที่ตลาดมากขึ้น หลังจากที่ได้รับเงิน 10,000 บาท ทำให้แม่ค้าที่ขายของในตลาดต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าขายของดีมากกว่าแต่ก่อน และอยากจะให้ค้าขายดีแบบนี้ทุกวัน มั่นใจว่าโครงการดังกล่าวนี้ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี




“ส่วนตัวตนยังไม่ได้ลงทะเบียนประชารัฐ เพราะช่วงนั้นยังไม่มั่นใจว่าจะได้เงินจริงตามที่รัฐบาลกล่าวไว้ เพราะเห็นตามข่าวในมีการปรับเปลี่ยนนายกรัฐมนตรี แต่หลังจากที่ นางสาวแพทองธาร ได้มาเป็นนายกรัฐมนตรี และเห็นประชาชนในกลุ่มเปราะบางได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท จริง ทำให้เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือคนรากหญ้าได้จริง หลังจากนี้ ถ้าหากมีการเปิดให้ลงทะเบียนอีกครั้งตนก็จะไปลงทะเบียน หวังว่าจะตนจะได้เข้าร่วมในโครงการประชารัฐ อยากฝากถึงนายกรัฐมนตรีอยากให้ช่วยทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นเพื่อให้คนรากหญ้ามีกินมีใช้ และมีชีวิตที่ดีขึ้น
ด้านสถานธนานุบาลเทศบาลนครขอนแก่น แห่ง 1 เขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่ามีประชาชนได้มาไถ่ถอนสิ่งของที่จำนำไว้ไม่เกิน 10,000 บาท เดินทางมาไถ่ถอนออกไปเป็นจำนวนมาก
นางสาวปิยะดา วงศ์ละคร ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลนครขอนแก่น แห่งที่ 1 กล่าวว่า หลังจากที่ประชาชนได้รับความช่วยเหลือจากทางรัฐบาลที่ได้รับเงิน 10,000 บาท ซึ่งตลอด 2 วันที่ผ่านมาได้มีประชาชนทยอยเข้ามาไถ่ถอนสิ่งของที่จำนำไว้ในราคาไม่เกิน 10,000 บาท ซึ่งบางคนจำนำสิ่งของไว้เกือบ 1 ปี ยังไม่มีเงินมาไถ่ถอน ได้แต่จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยไปก่อน แต่พอหลังจากที่ได้เงินก็ได้มาไถ่ถอนสิ่งของออกไป จากการสอบถามพบว่าคนที่มาไถ่ถอนได้เงินจากมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทางรัฐบาลจ่ายให้กับกลุ่มเปราะบางเป็นกลุ่มแรก