
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 2 ตุลาคม 2567 ขณะที่ ร.ต.อ.วิฆเนศ ซื่อตรง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังออกตรวจในเขตรับผิดชอบ ได้รับแจ้งว่า มีชายหลอนยาคลุ้มคลั่ง อาละวาด ส่งเสียงดัง ขังตัวเองอยู่ภายในบ้านเลขที่ 50/1 หมู่ 5 ภายชุมชนหนองเตาเหล็ก เขตเทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งมีอาการเช่นนี้มาหลายวันแล้ว จึงนำกำลังไปตรวจสอบ










ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ที่ปิดประตูล็อคกลอนจากด้านใน แต่มีเสียงร้องเอะอะอยู่ภายในบ้าน ตำรวจได้เรียกชื่อนายภควัต หนูจิตร หรือแอ้ อายุ 48 ปี เจ้าของบ้านให้เปิดประตูออกมา แต่นายแอ้ไม่ยอมเปิดประตูออกมาและเงียบเสียงไป ไม่นานชาวบ้านชี้บอกตำรวจว่านายแอ้ เปิดหน้าต่างห้องนอนปีนขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน และเดินไปนอนอยู่บนหลังคาเพื่อนบ้าน ซึ่งมีร่มต้นมะม่วงบังแดดให้ โดยไม่สนใจชาวบ้านและตำรวจที่เจรจาเกลี้ยกล่อมให้ลงมา
จากนั้น จนท.ตำรวจและชาวบ้านได้เรียกให้นายแอ้ลงมาจากหลังคา บอกว่าตำรวจจะพาไปหาหมอ นายแอ้จึงลุกขึ้นนั่งพร้อมกับพนมมือบอกว่า “ช่วยผมด้วย” แต่ก็ไม่ยอมลงจากหลังคา จากนั้นนายแอ้ก็ได้สวดมนต์ “บูระพารัสมิง พระสังฆานัง” จนจบบท จากนั้นก็ได้ยอมลงมาจากหลังคา ชาวบ้านได้เอาน้ำเย็นและกาแฟให้ดื่ม โดยนายแอ้ ยอมรับว่าพึ่งเสพยาบ้า 1 เม็ด โดยมีเพื่อนนำมาให้ แต่ไม่ได้เสพเป็นประจำ ถ้าวันไหนมียามาก็จะเสพ สาเหตุที่ขึ้นไปบนหลังคา เพราะมีคนพูดอยู่ในหูว่ามีคนจะมาฆ่า จึงได้ขึ้นไปบนหลังคา และสวดมนต์ บูระพารัสมิง พระสังฆานัง เป็นบทสวดมนต์ป้องกันภัยทั้ง 10 ทิศ
หลังจากให้นายแอดื่มกาแฟเสร็จ ตำรวจได้ควบคุมตัวนายแอ้ไปเปิดบ้านหาบัตรประชาชน เพื่อนำตัวส่งไปรักษาตัวที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี แต่ในขณะเดียวกันก็ได้มีนายนิธิ บุญลาภ อายุ 22 ปี พ่อค้าก๋วยเตี๋ยวใกล้ที่เกิดเหตุ ได้ทำก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กน้ำตกพิเศษ 1 ถ้วยให้นายแอ้กิน เพราะอยากให้นายแอ้กินให้อิ่ม จะได้สงบสติอารมณ์ อารมรณ์ดี ก่อนไปบำบัดรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งนายแอ้กินก๋วยเตี๋ยวก็บอกว่าอร่อย และเมื่อเช้ามีเพื่อนรุ่นพี่นำข้าวมาให้กินแล้ว แต่ขณะนั่งกินก๋วยเตี๋ยวนายแอ้ยังมีอาการหลอน ได้ยกมือไหว้ท้วมหัว โดยบอกว่ามีคนสั่งอยู่บนหัวให้ยกมือไหว้ และให้ทำแต่สิ่งดีๆ
หลังจากกินก๋วยเตี๋ยวเสร็จ ตำรวจจะนำตัวนายแอ้ขึ้นรถตราโล่ไปโรงพยาบาลเพื่อรักษา แต่นายแอ้ไม่ยอมไป ดิ้นรนต่อสู้ขัดขืนไม่ยอมขึ้นรถ พร้อมกับสวดมนต์ ตำรวจและชาวบ้านต้องกดนายแอ้ลงพื้น ก่อนใส่กุญแจมือ ซึ่งนายแอ้ร้องหาแม่ และร้องว่าตนไม่ผิด อย่าทำผม เพราะไม่อยากไปโรงพยาบาล ตำรวจและชาวบ้านได้หามนายแอ้ขึ้นบนรถไปโรงพยาบาลด้วยความทุลักทุเล จนสำเร็จก็นำขึ้นรถได้
นายนิธิ กล่าวว่า เมื่อเช้านี้เห็นนายแอ้มายืนสวดมนต์อยู่ริมหนองน้ำ ไม่รู้ว่าสวดอะไรตนไม่ได้ตั้งใจฟัง จากนั้นก็เดินเข้ามาในร้านตนว่าขอหลบหน่อย ตนบอกว่าอย่าเข้าไปในบ้านคนอื่น แต่ก็ไม่ฟัง ก่อนหน้านี้ก็ด่าเมีย แต่พอเมียเสียชีวิต ก็ยังด่าอยู่เหมือนเดิม ไม่รู้ว่าด่าใคร คิดว่าเสพยาจนหลอน
นายวรพจน์ คงกะเรียน อายุ 25 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ตนนั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ในร้าน เห็นนายแอ้วิ่งเข้ามาในร้าน บอกว่าขอหลบก่อน แล้วก็เข้าไปในบ้าน จากนั้นก็สวดมนต์ ซักพักก็มีชายสูงอายุที่รู้จักกับแอ้ มาตามให้ออกจากร้านไป ซึ่งนายแอ้จะอยู่คนเดียวมีอาการคล้ายจะเป็นโรคซึมเศร้า
นางขวัญตา หนูแก้ว อายุ 56 ปี เพื่อนบ้านกล่าวว่า นายแอ้อยู่คนเดียว เพราะภรรยาป่วยเป็นมะเร็งเสียชีวิต มาประมาณ 1 ปีเศษ นายแอ้ไม่ได้นอนเกือบสองสัปดาห์แล้ว จะโวยวายและสวดมนต์ แล้วก็จะด่าคนระบุชื่อด้วย ไม่ได้กินข้าวกินน้ำ ชาวบ้านสงสารเพราะไม่ได้ทำงาน จะนำข้าวไปให้กิน แต่ก็ด่าคนไปทั่ว ซึ่งเป็นมานานแล้ว เคยไปรักษาแต่ก็ไม่กินยา