
ป้าวัย 67 ชาว อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ป่วยความดันและมีก้อนเนื้อที่คอ แต่ยังต้องหาบเร่ทั้งผัก อาหาร ขนม ทั้งที่ทำเองและรับซื้อต่อ นั่งรถไฟข้ามอำเภอเดินหาบเร่ขายในตัวเมือง เพื่อรายได้เลี้ยงชีพ ดูแลลูกพิการ และหลานที่กำลังเรียน รอความหวังจะได้เงินหมื่นเฟสสองจากรัฐเพื่อมาช่วยแบ่งเบาภาระ หวั่นตกหล่นเพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐแม้แต่บัตรคนจน





(20 พ.ย.67) หลังจากที่รัฐบาลเดินหน้านโยบายแจกเงินดิจิทัลเฟสสอง 10,000 บาท โดยจะพิจารณาให้กับกลุ่มที่อายุ 60 ปีขึ้นไป แต่ไม่ซ้ำซ้อนกับกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้พิการ และต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น “ทางรัฐ” ไว้แล้ว ทำให้ประชาชนหลายคนที่มีอายุ 60 ปี ต่างมีความหวังว่าจะได้รับเงิน 10,000 บาท เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายในครอบครัวและชีวิตประจำวันตามความจำเป็น ไม่ต่างจากนางทะนวง จิตตะโร อายุ 67 ปี ชาวตำบลหนองเต็ง อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งปัจจุบันป่วยเป็นความดัน และมีก้อนเนื้อที่คอ แต่ยังต้องประกอบอาชีพหาบเร่นำผัก อาหาร ขนม ทั้งที่ทำเอง และรับซื้อต่อมา นั่งรถไฟจาก อ.กระสัง มาขายที่ตลาด 5 นาทีสถานีรถไฟ และเดินหาบเร่ขายในตัวเมืองบุรีรัมย์ เพื่อหารายได้เลี้ยงชีพ ดูแลลูกชายพิการ และส่งหลานชายเรียนหนังสือ ก็มีความหวังว่าจะได้เงินดิจิทัลเฟสสอง 10,000 บาท เพื่อจะได้นำไปใช้จ่ายแบ่งเบาภาระในครอบครัว เพราะทุกวันนี้มีรายได้จากการหาบเร่ขายของเฉลี่ยวันละ 200 – 300 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพอกับรายจ่ายในครอบครัว
ก็หวังว่ารอบนี้จะเข้าหลักเกณฑ์ได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาทจากรัฐ เพราะที่ผ่านมายังไม่เคยได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐ ซึ่งหากได้รับเงิน 10,000 บาทจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวได้มาก