
พาณิชย์จังหวัดยโสธรจัดงานตลาดนัดข้าวเปลือก ปีการผลิต 2567/68 เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้เกษตรกรในจังหวัดยโสธรมีช่องทางตลาดเพิ่มขึ้นสร้างอำนาจต่อรองในการขายข้าวเปลือก เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมด้านราคาตามคุณภาพ












วันนี้ (25 พ.ย.2567) เวลา 13.30 น. ที่สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. ยโสธร จำกัด บ้านตาดทอง ตำบลตาดทอง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร นายสมชัย บูรณะ ปลัดจังหวัดยโสธร เป็นประธานเปิดงานตลาดนัดข้าวเปลือก ปีการผลิต 2567/68 โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดยโสธร ร่วมกับสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. ยโสธร จำกัด ได้ร่วมกันจัดขึ้นเป็น ครั้งที่ 1 จำนวน 2 จุด รับซื้อ ซึ่งจุดรับซื้อที่ 1 ระหว่างวันที่ 22 – 23 พฤศจิกายน 2567 ณ วิสาหกิจชุมชนนาแปลงใหญ่ข้าว หมู่ที่ 8 บ้านโนนบ้านใหม่ ตำบลคำไผ่ อำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร และจุดรับซื้อที่ 2 ระหว่างวันที่ 25 – 29 พฤศจิกายน 2567 ณ สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. ยโสธร จำกัด บ้านตาดทอง ตำบลตาดทอง อำเภอเมืองยโสธร จังหวัดยโสธร เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้เกษตรกรในจังหวัดยโสธรมีช่องทางตลาดเพิ่มขึ้นสร้างอำนาจต่อรองในการขายข้าวเปลือก เกษตรกรได้รับความเป็นธรรมด้านราคาตามคุณภาพ รวมทั้งส่งเสริมให้มีการซื้อขายข้าวเปลือกเกิดความเป็นธรรมด้านราคา การชั่งน้ำหนักและการตรวจสอบคุณภาพ
ทั้งนี้ การชั่งน้ำหนักถูกต้องเที่ยงตรง ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานสาขาชั่งตวงวัดเขต 2-7 ร้อยเอ็ด และยังมีเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดยโสธรคอยดูแลอำนวยความสะดวกการซื้อขายตลอดการจัดงานฯ ซึ่งภายในงานมีผู้ประกอบการในจังหวัดยโสธร เข้าร่วมรับซื้อข้าวเปลือก จำนวน 7 ราย ประกอบด้วย 1.ห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีกิจทวียโสธร 2.บริษัท โรงสีทรัพย์สิริธร จำกัด 3. สหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. ยโสธร จำกัด 4. วิสาหกิจชุมชนนาแปลงใหญ่ข้าว หมู่ที่ 8 บ้านโนนบ้านใหม่ อ.ไทยเจริญ 5. บริษัท โรงสีพงษ์นิธิทิพ1 จำกัด 6. บริษัท โรงสีพงษ์เจริญ จำกัด 7. บริษัท โรงสีไฟสหพืชผลยโสธร (1994) จำกัด และ 8. บริษัท รักษนา พรีเมียม ไรซ์ จำกัด โดยราคากลางในการรับซื้อข้าวเปลือก (ข้าวหอมมะลิ) ความชื้นไม่เกิน 15% ราคา 15,000 บาท/ตัน ความชื้นที่ 25 % ราคา 12,600 บาท/ตัน ทั้งนี้ การหักลดความชื้นและสิ่งเจือปน ให้เป็นไปตามประกาศของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์
โดยการจัดตลาดนัดข้าวเปลือกในครั้งนี้ ได้มีชาวนานำรถบรรทุกข้าวเปลือกมาเข้าคิวรอขายอย่างคึกคัก ซึ่งชาวนารู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่กระทรวงพาณิชย์ได้จัดโครงการดีๆ แบบนี้ ทำให้ชาวนามีรายได้จากการขายผลผลิตเพิ่มมากขึ้น และรู้สึกเชื่อมั่นด้านความเป็นธรรมในการจำหน่ายผลผลิตข้าวในปีนี้ด้วย