
ชาวบ้านหนองหว้า อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ที่ปลูกข้าวโพดพืชที่ใช้น้ำน้อย เก็บผลผลิตไปต้มขายและฟักสดวางขายตามเพิงริมถนน ช่วงหยุดยาวปีใหม่มีผู้ที่เดินทางสัญจรผ่านแวะซื้อคึกคัก ทั้งยังมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อฟักสดถึงสวนไปต้มขายต่อ ส่งผลให้มีรายได้วันละ 2 – 3 พันบาทเพิ่มจากปกติเท่าตัว












(28 ธ.ค.67) ชาวบ้านบ้านหนองหว้า ต.หนองขมาร อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ กว่า 20 ครัวเรือน ที่ปลูกข้าวโพดซึ่งเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยไม่ต้องเสี่ยงกับภาวะภัยแล้ง นำมาต้มและวางขายสดตามเพิงริมถนนสายคูเมือง – พุทไธสง ซึ่งเป็นถนนสายหลักผ่านหมู่บ้าน ซึ่งช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ก็ได้มีประชาชนและนักท่องเที่ยวที่สัญจรผ่าน แวะซื้อตลอดทั้งวัน มีทั้งซื้อแบบต้มสุกแล้วรับประทานขณะเดินทาง และซื้อฟักสดที่ยังไม่ต้ม ไปเป็นของฝากให้กับญาติ นอกจากนั้นยังมีพ่อค้าแม่ค้าทั้งในจังหวัดบุรีรัมย์ และต่างจังหวัด มารับซื้อฟักสดถึงสวน เพื่อนำไปต้มขายอีกด้วย ส่งผลให้ช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ปีนี้ชาวบ้านที่ปลูกข้าวโพดขาย มีรายได้วันละ 2,000 – 3,000 บาท จากปกติที่ไม่ใช่เทศกาลจะขายได้วันละประมาณ 1,000 บาทเท่านั้น สำหรับข้าวโพดที่ขายก็มีทั้งข้าวโพดหวาน และข้าวโพดข้าวเหนียว ถ้าต้มสุก หรือฟักสดที่วางขายริมถนนจะขายถุงละ 20 บาท 3 ถุง 50 บาท แต่ถ้าหากมารับซื้อที่สวนเพื่อนำไปขายต่อก็จะขายกิโลกรัมละ 12 – 13 บาท
นายสว่าง สุขทวี ชาวบ้านบ้านหนองหว้า บอกว่า ชาวบ้านในหมู่บ้านหนองหว้า จะปลูกข้าวโพดขายเป็นอาชีพเสริมหลังฤดูทำนาประมาณ 20 ครัวเรือน บางคนก็จะปลูกเองแล้วนำมาต้มขายเองตามเพิงริมถนน ซึ่งปัจจุบันก็มีตั้งเพิงขายริมถนนประมาณ 10 ร้าน แต่บางคนก็ขายส่งเป็นฟักสดอย่างเดียว ซึ่งช่วงเทศกาลหยุดที่มีวันหยุดยาว ก็จะขายดีกว่าช่วงปกติมีรายได้เฉลี่ยวันละ 2 – 3 พันบาท จากปกติก็ประมาณวันละ 1 พันบาท บางคนนอกจากขายข้าวโพดแล้วก็ยังรับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของคนในหมู่บ้านมาวางขายเสริมด้วย ก็ถือเป็นการสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี