
2 ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ใน 2 พื้นที่ รายแรกยิงตำรวจบาดเจ็บ อีกรายหนีการจับกุม หลบหนีข้ามลาว ใช้ชีวิตอยู่เกือบ 2 ปี สุดท้ายตำรวจลาวจับตัวได้ส่งกลับให้ตำรวจหนองคายไปรับตัว หนุ่มก่อเหตุยิงตำรวจบาดเจ็บขอโทษที่ยิงไม่ได้ตั้งใจ















เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 8 ม.ค.68 พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จ.หนองคาย, พ.ต.อ.จามร อันดี รองผบก.ภ.จ.หนองคาย, พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สส.ภ.จ.หนองคาย, พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย, พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.หนองคาย พร้อมทหารกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และ ปปส.ภาค 1 ได้ร่วมกันเดินทางไปยังด่านสะพานมิตรภาพลาว-ไทย แห่งที่ 1 เวียงจันทน์ – หนองคาย ฝั่ง สปป.ลาว เพื่อเดินทางไปรับตัวผู้ต้องหา 2 คน กลับประเทศ คือ นายอภิวัฒน์ ตันเจริญ หรือเหน่ง และ นายสัตจะยา เพ็งนวล หรือ โบ๊ท ซึ่งหลบหนีคดีในไทยไปหลบซ่อนอยู่ในนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว โดยพันเอกกง คะนะลังสุก รองหัวหน้ากองบัญชาการ ปกส.นครหลวงเวียงจันทน์ นำคณะคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนส่งคืนให้กับทางการไทยกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย
พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จ.หนองคาย เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารายแรก คือ นายอภิวัฒน์ ตันเจริญ หรือ เหน่ง อายุ 35 ปี ชาว จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2567 ได้ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ สน.สายไหม ขณะเข้าจับกุมแก๊งค้ายาเสพติดในพื้นที่ โดยนายอภิวัฒน์ได้ยิงเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บแล้วหลบหนีมายังจังหวัดหนองคาย อาศัยช่องทางธรรมชาติข้ามแม่น้ำโขงหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ศาลอาญามีนบุรีได้ออกหมายจับในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า)เพื่อจำหน่าย ใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธหรือใช้อาวุธและกระทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป พยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่
ส่วนนายสัตจะยา เพ็งนวล หรือโบ๊ท อายุ 29 ปี เป็นชาว ต.ลำนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2566 ตำรวจ สภ.ชัยบาดาล ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 184,800 เม็ด และยาบ้าเปียกน้ำ น้ำหนักรวม 3,958 กรัม อาวุธปืนพกสั้น .38 ยี่ห้องกล็อก 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน 47 นัด จากนั้นเจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค 1 ได้ร่วมกับสอบสวนขยายผลเพื่อขออนุมัติจับกุมนายสัตจะยาซึ่งเป็นผู้สั่งการและร่วมกระทำผิดในคดีดังกล่าว แต่ต่อมานายสัตจะยาได้หลบหนีไปยัง สปป.ลาว ศาลอาญาได้ออกหมายจับนายสัตจะยา ในข้อหาสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปและร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1
หลังจากได้รับการประสานจากตำรวจในพื้นที่แล้ว พล.ต.ต.พิรัชย์ อุดมพิสุทธิคุณ ผบก.ภ.จ.หนองคาย ได้ประสานความร่วมมือกับทางการลาว ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน นำมาซึ่งการจับกุมและส่งมอบตัวผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยในครั้งนี้ ขณะเดียวกันนายอภิวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ยิงตำรวจได้รับบาดเจ็บ ได้กล่าวขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกยิง ซึ่งบอกว่าในวันนั้นไม่ได้ตั้งใจยิงเพียงแค่ต้องการเปิดทางหลบหนีเท่านั้น โดยก่อนหน้านี้นายอภิวัฒน์ เคยถูกจำคุกในคดีพยายามฆ่ามาแล้ว และเคยพูดคุยกับเพื่อนผู้ต้องขังว่าหากมีคดีถ้าจะหลบหนีให้ไปที่ลาว แต่สุดท้ายก็ถูกจับ.